หุ้นปิดลบ 22 จุด สถาบันทิ้ง 4 พันลบ. ต่างชาติขายเล็กน้อย

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 22.59 จุด ดัชนีใกล้แนวรับ 1,600 จุด ปรับตัวลงตามต่างประเทศ ผสมข่าวการปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% สถาบันในประเทศขายสุทธิ 4.39 พันล้านบาท ต่างชาติขาย 277 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 5.8 พันล้านบาท แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาดตลาดยื้ออยู่แถวบริเวณ 1,600 จุด แนะเลี่ยงหุ้นใหญ่ เสี่ยง Fund Flow ไหลออก ชูหุ้นเด่นกลุ่มส่งออก GFPT-NER-TU

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 20 ก.ย. 2564 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,603.06 จุด -22.59 จุด หรือ -1.39% มูลค่าการซื้อขาย 85,013.63 ล้านบาท

นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 4,392.47 ล้านบาท รองลงมาบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,191.00 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 277.42 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 5,860.89 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปิดลบกว่า 22 จุด ตามบรรยากาศการลงทุนเชิงลบของตลาดต่างประเทศ ทั้งฝั่งของตลาดภูมิภาค อาทิ ตลาดหุ้นฮ่องกง ที่ปรับตัวลดลงตาม Sentiment เชิงลบ หลังบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของจีน (Evergrande) มีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ อีกทั้งตลาดหุ้นดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ก็ปรับตัวลดลง จากความเสี่ยงของการประชุม FOMC ในเรื่องของการใช้ QE Tapering และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ รวมถึงการขึ้นภาษีบริษัทจดทะเบียน

ด้านปัจจัยลบในประเทศ ภาครัฐได้ขยายเพดานหนี้สาธารณะ ขึ้นเป็น 70% ต่อ GDP จากเดิมที่ 60% ทำให้วันนี้ทิศทางค่าเงินบาทอ่อนค่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 33.34 บาทต่อดอลลาร์ อีกทั้งยังมีการพูดคุยและรับฟังความเห็น ในเรื่องของการพิจารณาหุ้นที่ติด Cash Balance จะไม่ถูกนำมาคิดในดัชนี SET50 จากปัจจัยข้างต้นทั้งหมดทำให้กดดันตลาดหุ้นไทยวันนี้

ส่วนแนวโน้มของตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ (21-24 ก.ย.2564) มองดัชนีจะเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,600 จุด โดยมีแนวรับที่ 1,585-1,600 จุด และแนวต้านที่ 1,615 จุด คาดว่าก่อนช่วงการประชุม FOMC อาจจะเริ่มมีการทยอยปรับลดความเสี่ยงก่อนที่รู้ผลในช่วงเช้าวันที่ 23 ก.ย.นี้ การลงทุนในสัปดาห์นี้ แนะนำเลี่ยงหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจากแนวโน้มบาทอ่อน และความเสี่ยงการปรับลด QE ทำให้เกิดความเสี่ยงที่เม็ดเงินจะไหลออก โดยแนะนำหุ้นเด่น ได้แก่ GFPT ,NER และTU

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

KBANK ปิดที่ 118.50 บาท -3.50 หรือ -2.87% มูลค่าการซื้อขาย 3,294.17 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 39.00 บาท หรือ ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2,950.13 ล้านบาท
KCE ปิดที่ 82.75 บาท +0.25 หรือ 0.30% มูลค่าการซื้อขาย 2,755.58 ล้านบาท
SCGP ปิดที่ 62.25 บาท -2.50 หรือ -3.86% มูลค่าการซื้อขาย 2,358.28 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 12.30 บาท -0.50 หรือ -3.91% มูลค่าการซื้อขาย 1,765.13 ล้านบาท