บล.กสิกรฯให้แนวรับ 1,600 และ 1,580 จุด ลุ้นเฟด-เงินไหลออกสัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยคาดหุ้นมีแนวต้านไม่เกิน 1,645  จุด แกว่งตามผลประชุมเฟด  สถานการณ์โควิด ส่งออกเดือนส.ค. ทิศทางเงินลงทุนจากต่างประเทศ ส่วนค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังจากอ่อนค่าที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ ที่ 33.26 บาท

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย มองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (20-24 ก.ย.) ว่า ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,600 และ 1,580 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,635 และ 1,645 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (21-22 ก.ย.) สถานการณ์โควิด ประเด็นการเมือง ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค. ของไทย ทิศทางเงินลงทุนจากต่างประเทศ ตลอดจนประเด็นการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสองเดือนส.ค. รวมถึงดัชนี PMI เดือนก.ย. (เบื้องต้น) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOJ การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนก.ย. ของจีน ตลอนจนดัชนี PMI เดือนก.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซนและญี่ปุ่น

หุ้นปรับตัวลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,625.65 จุด ลดลง 0.59% ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 85,757.98 ล้านบาท ลดลง 5.41% ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 1.00% มาปิดที่ 554.20 จุด

หุ้นร่วงลงช่วงต้นสัปดาห์ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการกำกับดูแลภาคธุรกิจของทางการจีน นอกจากนี้ยังมีแรงขายในหุ้นที่มีฟรีโฟลทต่ำ (โดยเฉพาะหุ้นของบริษัทในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์) หลังมีรายงานข่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมที่จะพิจารณาปรับเกณฑ์ในการหาหุ้นเข้า SET50 และ SET100

อย่างไรก็ดีดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นช่วงกลางสัปดาห์ตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศ ก่อนจะร่วงลงอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ตามแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่การปรับน้ำหนัก FTSE Rebalance เริ่มมีผลในวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (20-24 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 32.70-33.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาทอ่อนค่าผ่านแนว 33.00 มาแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ที่ 33.26 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับแรงขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ (ทั้งสัปดาห์ขายสุทธิทั้งสิ้น 26,800 ล้านบาท) ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังจากข้อมูลยอดค้าปลีก และผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียที่ออกมาดีกว่าที่คาด กระตุ้นให้มีแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ เนื่องจากประเมินว่า เฟดอาจให้สัญญาณบางอย่างเกี่ยวกับการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมวันที่ 21-22 ก.ย.นี้

ในวันศุกร์ (17 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (10 ก.ย.)