HoonSmart.com>> บล.เคจีไอ ประเมินสถานการณ์ COVID ในไทยกลับมาดีขึ้นไตรมาส 4/64 หนุนบางกองทุนอสังหาฯ รีท ฟื้นตัว ด้านกองทุน JASIF-DIF ยังโชว์ฟอร์มสวยท่ามกลาง COVID พร้อมชี้เป้า 5 กองทุน JASIF, DIF, HREIT,ALLY, GROREIT เด่นชูผลตอบแทนเงินปันผลน่าสนใจ ด้านผลประกอบการไม่ผันผวน แนวโน้มจ่ายเงินปันผลดีขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์กลุ่มกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (PFund) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) ยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลยังน่าพอใจสําหรับ top picks โดยคาดว่าสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทยจะรุนแรงที่สุดในไตรมาส 3/64 หลังจาก COVID-19 กลับมาระบาดระลอกสามในประเทศไทยแล้วประมาณ 5 เดือน คิดว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นในไตรมาส 4/64 เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อผ่านจุดสูงสุดไปแล้วที่ 23,418 ราย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่สถานการณ์จะดีขึ้นในระยะต่อไป
อย่างไรก็ตามแม้ว่าการระบาดระลอกนี้จะกินเวลายาวนานกว่าระลอกแรกและระลอกสอง ทั้งนี้ถ้ายอดผู้ติดเชื้อใหม่ยังคงลดลงต่อเนื่องในเดือนก.ย. มองว่าน่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ลงอีก และน่าจะมีการเดินหน้าเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วในไตรมาส 4/64 จึงมองว่าการพัฒนาการด้านบวกดังกล่าวจะทำให้บางกองทุนฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะกองทุนที่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากสถานการณ์โรคระบาด เช่น CPNREIT, BTSGIF
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ยังใช้เกณฑ์เดิมในการคัดกองทุนเด่นในกลุ่ม PFund-REITs-IFF โดยเน้นกองทุนที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจหรือค่อนขางสูง ซึ่งเมื่อพิจารณาด้านผลการดำเนินงานกองทุนส่วนใหญ่ยังมีผลการดำเนินงานเป็นบวกในไตรมาส 2/64 แม้จะต้องเผชิญกับการระบาดระลอกสามของ COVID-19 โดยกำไรสุทธิของ JASIF และ DIF อยู่ที่ 2.08 พันล้านบาทและ 2.94 พันล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นกองทุนที่มีกำไรสุทธิสูงเป็นอันดับต้นๆ ของกองเด่นที่ KGI เลือก
นอกจากนี้ JASIF, DIF และ HREIT ยังคงรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลเอาไว้เท่าเดิมเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ซึ่งหมายความอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสำหรับปี 2564 จะค่อนข้างสูงอยู่ที่ 8%-9%
สำหรับกองทุนเด่นยังคงเลือก JASIF, DIF, HREIT,ALLY และ GROREIT เป็นกองเด่นในกลุ่มนี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ 1.อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ 2.ผลประกอบการไม่ค่อยผันผวน และ 3.ผลการดำเนินงานและการจ่ายเงินปันผลมีแนวโน้มจะดีขึ้นในปี 2564