ปิดฉาก “บลจ.โซลาริส” เซ่นบี/อี

ก.ล.ต.เผยบลจ.โซลาริส อยู่ระหว่างเลิกกิจการ หลังตั๋วบี/อีพ่นพิษกระทบธุรกิจ เงินกองทุนลดต่อเนื่อง ผู้ถือหุ้นดิ้นหาพาร์ทเนอร์ วงในแย้มสถาบันทั้งในและต่างประเทศดอดเจรจา

นายรพี สุริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผย “www.hoonsmart.com” ว่า ก.ล.ต.ได้รับแจ้งจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)โซลาริส ว่าจะดำเนินการเลิกกิจการ เนื่องจากได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงินระยะสั้น (บี/อี) ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิของบริษัทลดต่ำลง ถึงแม้ผู้ถือหุ้นได้เพิ่มทุนไปแล้วก็ตาม

“ธุรกิจกองทุนขึ้นอยู่กับขนาด พอมีข่าวออมากระทบ ลูกค้าใหม่ก็ไม่เข้ามาลงทุน ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้บริหารไม่เติบโต บริษัทต้องแบกต้นทุนค่าใช้จ่ายไว้อย่างเดียว ผู้ถือหุ้นอาจคิดว่าไม่คุ้มและเมื่อดำรงเงินกองทุนไม่ได้ก็ต้องปิดกิจการลง”นายรพี กล่าว

อย่างไรก็ตามบลจ.โซลาริสอยู่ในขั้นตอนการเลิกกิจการ ซึ่งจากกรณีที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายต่อุตสาหกรรมกองทุนรวม อีกทั้งกฎหมายกำหนดให้กองทุนถูกแยกส่วนออกจากบลจ.อยู่แล้ว

สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนที่ได้รับความเสียหายจากตั๋วบี/อีของบริษัทที่ผิดนัดชำระหนี้นั้น ที่ผ่านมากองทุนแยกเงินลงทุนส่วนที่ลงทุนในตั๋วบี/อีที่มีปัญหาออกจากกองทุนแล้ว ซึ่งหากบริษัทที่ออกตั๋วชำระหนี้คืน กองทุนจะนำเงินคืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนต่อไป


แหล่งข่าว เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีมิโก้ ซึ่งถือหุ้น 100% ในบลจ.โซลาริส อยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันทั้งในและต่างประเทศหลายแห่งที่สนใจเข้ามาซื้อหุ้นบลจ.โซลาริส ซึ่งยังไม่ได้สรุปว่าจะเป็นรูปแบบใด อาจเพิ่มทุนโดยเปิดให้พาร์ทเนอร์เข้ามาถือหุ้นบลจ.โซลาริสหรือขายทั้งหมด ซึ่งเท่าที่ทราบสถาบันการเงินที่เข้ามาเจรจาบางแห่งต้องการนำแพลทฟอร์มไปดำเนินธุรกิจเฉพาะกองทุนส่วนบุคคล

“ขณะนี้บลจ.โซลาริส ทยอยปิดกองทุนลงต่อเนื่อง โดยจะโอนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ให้บลจ.รายอื่นบริหารจัดการต่อไป ซึ่งเหมือนกรณีของบลจ.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ที่เลิกกิจการไปก่อนหน้านี้”แหล่งข่าว กล่าว

ทั้งนี้ ตั๋วบี/อีที่ผิดนัดชำระหนี้จนทำให้บลจ.โซลาริสได้รับผลกระทบ ได้แก่ ตั๋วบี/อีบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) ซึ่งเริ่มมีปัญหาตั้งแต่เดือนธ.ค.2559 จนถึงปัจจุบันกองทุนของบลจ.โซลาริสยังมีหนี้ตั๋วบี/อีของ IFEC ที่ยังไม่ได้รับชำระประมาณพันล้านบาท อีกทั้งยังมีตั๋วบี/อีของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) ประมาณ 100 ล้านบาท ตั๋วบี/อีบริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ (KC) ประมาณ 350 ล้านบาทและบริษัท ดับบลิวซีไอ โฮลดิ้ง (WCIH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) ที่ยังไม่ได้รับชำระหนี้ประมาณ 150 ล้านบาท รวมมูลหนี้ทั้งหมดประมาณ 1,600 ล้านบาท จากข้อมูลบนเว็บไซต์ของบลจ.โซลาริส

ปัจจุบันบลจ.โซลาริส มีกองทุนรวมอยู่จำนวน 5 กองทุน มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 835.78 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทุนรวมตราสารหนี้ 2 กองทุน มูลค่ารวม 795.68 ล้านบาท กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) 2 กองทุน มูค่ารวม 9.78 ล้านบาท และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) 1 กองทุน มูลค่า 30.30 ล้านบาท ส่วนกองทุนส่วนบุคคลมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร ณ สิ้นเดือนก.พ.2561 มูลค่า 1,977 ล้านบาท