“บล.หยวนต้า” โชว์กำไร Q2 โต 321.17%

HoonSmart.com>>”บล.หยวนต้า” โชว์กำไร Q2 แตะ 432.59 ล้านบาท เติบโต 321.17% ย้ำสร้างผลงานคุณภาพ ด้วยความเป็นมืออาชีพ เน้นความมั่นคงและยั่งยืน ให้ลูกค้า

นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 432.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 329.88 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 321.17% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 102.71 ล้านบาท

สำหรับรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ หลัก ๆ จะมาจากรายได้ค่านายหน้าเพิ่มขึ้น 260.43 ล้านบาท จาก 627.66 ล้านบาท เป็น 888.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.49%

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีกําไรและผลตอบแทนจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 59.82 ล้านบาท จาก 88.64 ล้านบาท เป็น 148.46 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 67.49% จาก 1) การเป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพิ่มขึ้น 14.63 ล้านบาท รายได้จากการเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 20.67 ล้านบาท 2) รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 64.15 ล้านบาท จาก 198.97 ล้านบาท เป็น 263.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.24% 3)กำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินเพิ่มขึ้น 319.65 ล้านบาท จาก 147.58 ล้านบาท เป็น 467.23 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 216.59% เนื่องมาจากกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 872.13 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทได้พัฒนาและนำเทคโนโลยีมาใช้ส่งเสริมการลงทุนกับลูกค้า เช่น ระบบการเปิดบัญชีออนไลน์ (E-Open Account) รองรับ โดยสามารถเปิดบัญชีได้ค่อนข้างเร็วภายใน 8 นาที ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการในปี 2563 นอกจากการเปิดบัญชีออนไลน์แล้ว หยวนต้ายังเน้นการสื่อสารและให้ความรู้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีการจัดรายการประมาณ 7-8 รายการครอบคลุมทุกโปรดักท์ลงทุน ภายใต้ช่อง Yuanta WOW Channel ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียที่มีนักลงทุนติดตามเป็นจำนวนมาก และในส่วนของการพัฒนาเครื่องมือซัพพอร์ตการลงทุน บริษัทฯ มีแอพพลิเคชัน “Yuanta NAVI” ที่ให้บริการครอบคลุมทั้งการซื้อขายหุ้นและกองทุนรวมออนไลน์ โดยปัจจุบัน Yuanta NAVI สามารถให้บริการสอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าที่แตกต่างกันไปแต่ละรายได้

ส่งผลให้ยอดเปิดบัญชีใหม่ของลูกค้าเพิ่มขึ้น และทำให้บริษัทฯ ขึ้นเป็นโบรกเกอร์ที่มีส่วนแบ่งตลาดออนไลน์สูงสุดในปี 2563 อีกทั้ง บริษัทฯ มีฐานทุนที่แข็งแกร่ง มีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 5,400 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ซึ่งอยู่ในระดับต้น ๆ ของบริษัทหลักทรัพย์ รวมถึงการมีอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AA(tha) แนวโน้ม “อันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ทำให้มีความสามารถในการระดมทุนได้ดี พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่อย่างเต็มที่ ส่งผลให้บริษัทฯ มีแหล่งเงินทุนเพียงพอในการรองรับการขยายตัวของตลาดหลักทรัพย์และนักลงทุน รวมถึงรองรับการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบเพื่อให้นักลงทุนใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ