B โชว์ฟอร์มแกร่งครึ่งแรกปี 64 กำไรกระฉูด 688%

HoonSmart.com>> “บี จิสติกส์” โชว์กำไรครึ่งแรกปี 64 โตกระฉูดกว่า 688% แตะ 98 ล้านบาท เฉพาะงวดไตรมาส 2/64 กำไรสุทธิกว่า 20 ล้านบาท เป็นผลมาจากกำไรการดำเนินงานปกติ-กำไรจากเงินลงทุน ด้านฐานะการเงินแข็งแกร่ง หนี้สินรวมลดฮวบกว่า 44% แถมภาระผูกพันจากการชำระค่าเช่าอีก 8 ปีข้างหน้าสิ้นสุดลง หลังตัดขายท่าเรือ

สุทธิรัตน์ ลีสวัสดิ์ตระกูล

นางสาวสุทธิรัตน์ ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธานกรรมการ บริษัท บี จิสติกส์ (B) ผู้ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 20.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.66 ล้านบาท หรือ 290.19% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 ขาดทุน 10.57 ล้านบาท และมี EBITDA 31.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.53 ล้านบาท หรือ 621% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4.43 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากกำไรจากการดำเนินงานปกติและกำไรจากการลงทุนที่บริษัทไปลงทุน

สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 98.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 688.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 16.71 ล้านบาท และมี EBITDA 122.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.28 ล้านบาท หรือ 815% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 13.41 ล้านบาท

โดยบริษัทมีรายได้จากการให้บริการในไตรมาส 2/2564 จำนวน 54.34 ล้านบาท ลดลง 21.58 ล้านบาท หรือ 28.42% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้ 75.92 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเลิกประกอบธุรกิจท่าเรือ รวมถึงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้จากธุรกิจขนส่ง

สำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุด 30 มิ.ย 2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 221.75 ล้านบาท เทียบกับปี 2563 รายได้รวม 168.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.15 ล้านบาท หรือ 31.52% เนื่องจากบริษัทมีการรายได้อื่นจำนวน 115.76 ล้านบาท เป็นกำไรจากการขายทรัพย์สินถาวรและสิทธิการเช่าท่าเรือจำนวน 111.9 ล้านบาท

นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมฐานะการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมที่จะขยายธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 มิ.ย 2564 จำนวน 1,144.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 207 ล้านบาท หรือ 22.14% ซึ่งเกิดจากการเข้าลงทุนใน บริษัท โซลูชั่นส์ มอเตอร์ส จำกัด จำนวน 120 ล้านบาท จึงได้รวมสินทรัพย์ดังกล่าวเข้ามาในงบการเงินรวมและหลังจากที่บริษัทได้จำหน่ายท่าเรือบางประกงออกไป ทางบริษัทได้มีการขยายการลงทุนเพิ่มใน บริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด มูลค่า 125 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทมีหนี้สินรวม 171.83 ล้านบาท ลดลง 140 ล้านบาท หรือ 44.95% สาเหตุจากการจำหน่ายท่าเรือบางปะกง ซึ่งมีผลทำให้ภาระผูกพันจากการชำระค่าเช่าอีก 8 ปีข้างหน้าสิ้นสุดลง