HoonSmart.com>> บลจ.ไทยพาณิชย์ มองโอกาสลงทุนระยะยาวในกองทุน ARK เน้นลงทุนใน Disruptive Technology จากทั่วทุกมุมโลก แนวโน้มเติบโต ชี้ราคาย่อตัวโอกาสสะสม พร้อมเปิดขาย ARK Series รายแรกให้เลือกได้ถึง 3 รูปแบบ IPO 13 – 19 ส.ค. นี้ ลงทุนล้ำๆ กับ 5 กองทุน ใน 5 เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงมองเห็นโอกาสจากการลงทุนระยะยาวในกองทุน ARK ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนสัญชาติอเมริกัน ที่เน้นลงทุนใน Disruptive Technology จากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ลงทุนโดยเปิดให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ 1) ชนิดสะสมมูลค่า ที่เปิดให้เปิดให้ซื้อได้ในทุกช่องทาง รวมถึงผู้สนับสนุนการขายทุกราย อีกทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมการซื้อในช่วงเปิดเสนอขายครั้งแรก 2) ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ในรูปแบบ e-class ซึ่งฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อและการจัดการ โดยต้องลงทุนผ่าน SCBAM Fund Click เท่านั้น และ 3) ชนิดกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกพร้อมกันระหว่างวันที่ 13 – 19 สิงหาคม 2564 นี้
“กองทุน ARK เป็นกองทุน ETF ที่มุ่งลงทุนในกลุ่มบริษัทที่มีนวัตกรรมล้ำหน้า เพราะปรัชญาในการลงทุนหรือวิธีการคัดเลือกสินทรัพย์ของ ARK นั้น จะเน้นลงทุนในบริษัทที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ หรือที่ได้รับผลประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ซึ่งบริษัทหรือกิจการที่ลงทุนจะต้องมีโอกาสสร้างการเติบโตของกำไรได้ในระยะยาวและยั่งยืน ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านผลการดำเนินงานของกองทุนของ ARK Invest จะมีการปรับตัวลงในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่นับเป็นจังหวะดีที่จะได้สะสมกองทุนในราคาที่มีการปรับตัวลดลง เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้นในระยะยาว และนอกจากกองทุนที่ครบทั้ง 5 กองทุนแล้ว บริษัทฯ ยังเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับนักลงทุน โดยเปิดเสนอขายถึง 3 ชนิด เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมในการลงทุนอีกด้วย” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
สำหรับ SCBAM ARK Series ประกอบด้วย 5 กองทุน ได้แก่ 1) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Innovation (SCB Innovation : SCBINNO) ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวได้แก่ ARK Innovation ETF (ARKK) (กองทุนหลัก) เน้นลงทุนในธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม 2) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Autonomous Technology & Robotics (SCB Autonomous Technology &Robotics : SCBAUTO) ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวได้แก่ ARK Autonomous Technology & Robotics ETF (ARKQ) (กองทุนหลัก) มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจด้านเทคโนโลยีการขนส่ง หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ
3) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Next Generation Internet (SCB Next Generation Internet : SCBNEXT) ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวได้แก่ ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) (กองทุนหลัก) เน้นลงทุนในธุรกิจด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี
4) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Genomic Revolution (SCB Genomic Revolution : SCBGENOME) ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวได้แก่ ARK Genomic Revolution ETF (ARKG) (กองทุนหลัก) เน้นลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมสุขภาพและพันธุกรรมเพื่อโอกาสในการรักษาโรค และ 5) กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Fintech Innovation (SCB Fintech Innovation : SCBFINTECH) ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียวได้แก่ ARK Fintech Innovation ETF (ARKF) (กองทุนหลัก) มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจด้านนวัตกรรมการเงิน
ทั้ง 5 กองทุนนี้ลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับกองทุนหลักบริหารโดย ARK Investment Management LLC จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE Arca, Inc.) และเป็นกองทุนอีทีเอฟที่ใช้กลยุทธ์บริหารแบบเชิงรุก ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมสำหรับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
สำหรับกองทุนหลักบริหารงานโดยทีมผู้มีประสบการณ์การลงทุนยาวนานกว่า 40 ปี โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ Innovation เป็นหลัก ทั้งยังเฟ้นหาบริษัทที่จะเป็นผู้นำและผู้ที่ได้รับประโยชน์จาก Disruptive Technology ด้วยแนวทางการบริหารพอร์ตลงทุนแบบ Active ผสานการวิเคราะห์ทั้งแบบ Top –down เพื่อเฟ้นหาโอกาสในการลงทุนกับธุรกิจที่พร้อมเติบโตไปกับการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมและเทคโนโลยี และ Bottom –up เพื่อวิเคราะห์หลักทรัพย์รายตัวเพื่อประเมินศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ
ทั้งนี้ กองทุนหลักทั้ง 5 กองทุน คือ ARKK, ARKQ, ARKW, ARKG และ ARKF มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 86.6%, 84.2%, 84.3%, 79.1% และ 72.0% ตามลำดับ (ที่มา : Morningstar Direct ณ วันที่ 31 มิถุนายน 2564)