“ลุมพินี วิสดอม” คาดตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัวไตรมาส 4

HoonSmart.com>>“ลุมพินี วิสดอม” ระบุตลาดอสังหาฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวในไตรมาส 4 ของปี 2564 คาดทั้งปีการเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล มีแนวโน้มเติบโต 8% ถึงติดลบ 20% เทียบกับปี 2563 ขึ้นกับการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทด้านวิจัยและพัฒนาในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) กล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ว่า มีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2564 เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 หลังจากที่เลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่หลายโครงการ ผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส สายพันธ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ที่มีความรุนแรงตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงปัจจุบัน

จากการสำรวจของ “ลุมพินี วิสดอม” คาดว่า ถ้ารัฐบาลสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ภายในไตรมาสสามของปี 2564 จะทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงปลายไตรมาสสาม และไตรมาสสี่ ทำให้คาดว่าทั้งปี 2564 จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประมาณ 52,000-60,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 265,000-300,000 ล้านบาท หรือหดตัวประมาณ 5% ถึงขยายตัว 8% ในปี 2564 เทียบกับปี 2563

แต่ถ้ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ได้ภายในปี 2564 นี้ คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัย ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะมีจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวใหม่อยู่ที่ประมาณ 45,000-52,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 225,000-265,000 ล้านบาท หรือหดตัว 5% ถึง 20% ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันจากปี 2563

ขณะที่ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 มีที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวนทั้งหมด 23,551 หน่วย ลดลง 18% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นมูลค่า 130,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 จำนวนหน่วยการเปิดตัวลดลง แต่มูลค่าสูงขึ้นเนื่องจากมีการเปิดตัวโครงการ The Forestias ซึ่งเป็นโครงการที่มีมูลค่าสูงถึง 45,000 ล้านบาท ของบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

ผลจากสถานการณ์การเปิดตัวโครงการใหม่ที่หดตัวลง บวกกับอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ลดลงในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 “ลุมพินี วิสดอม” คาดว่าหน่วยคงค้างในตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 มีแนวโน้มทรงตัวจากสิ้นปี 2563 โดยมีจำนวนทั้งหมดประมาณ 222,000 หน่วย อาจต้องใช้เวลาในการขายประมาณ 51 เดือนเพื่อระบายหน่วยคงค้างทั้งหมด

“อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ในไตรมาสสามของปี 2564 รวมถึงสามารถเร่งนำเข้าและฉีดวัคซีนได้ตามแผนที่วางไว้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ ในขณะที่ภาคการส่งออกและภาคการผลิตยังคงสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐสามารถดำเนินการได้ตามแผน ผนวกกับอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในอัตราต่ำ เป็นปัจจัยที่ อาจทำให้สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว