HoonSmart.com>> “พีทีที โกลบอล เคมิคอล” โชว์กำไรไตรมาส 2/64 พุ่งแตะ 2.50 หมื่นล้านบาท จากงวดปีก่อนขาดทุน 1.67 พันล้านบาท กวาดรายได้รวม 1.12 แสนล้านบาท เติบโต 61% ราคาขายทุกผลิตภัณฑ์ปรับตัวขึ้นตามเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น หนุนงวดครึ่งปีแรกกำไร 3.47 หมื่นล้านบาท
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 กำไรสุทธิ 25,034.73 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 5.58 บาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,670.74 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.37 บาท
ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2564 กำไรสุทธิ 34,729.60 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 7.74 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 7,113.37 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 1.59 บาท
ผลประกอบการในไตรมาส 2/2564 มีรายได้จากการขายรวม 111,793 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาส 1/2564 และเพิ่มขึ้น 61% จากไตรมาส 2/2563 ในขณะที่รายได้จากการขายรวม 6 เดือนก็ปรับเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน เป็นผลมาจากราคาขายของทุกผลิตภัณฑ์ที่ปรับขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์และฟีนอล จากอุปสงค์ของผลิตภัณฑ์ตามสภาพเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นและราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับเพิ่มขึ้น
รวมทั้งมีปริมาณการขายในภาพรวมเมื่อเทียบครึ่งปีก่อนที่เพิ่มขึ้น จากการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงงานใหม่ และแผนการปิดซ่อมบำรุงตามแผนที่น้อยกว่า ทำให้บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ (ไม่รวมผลกำไรจากสต๊อกน้ำมันและการขาดทุนจากรายการมูลค่าสุทธิที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ ผลขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยน ผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง และรายการพิเศษอื่นๆ) ในไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 10,459 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2564 ที่ 19%
บริษัทฯ มี Adjusted EBITDA ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 15,363 ล้านบาท ซึ่งเมื่อพิจารณารวมถึงผลจากการที่บริษัทฯ รับรู้ผลกำไรจากสต๊อกน้ำมันและการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (Stock Gain Net NRV) เป็นกำไรรวม 1,447 ล้านบาท ผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง 1,000 ล้านบาท ผลขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยน 574 ล้านบาท และรายการพิเศษจากการขายหุ้นสามัญของบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จ (GPSC) และได้มีการจัดประเภทเงินลงทุนส่วนที่เหลือเป็นเงินลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินไม่หมุนเวียน ซึ่งมีกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมใหม่ ณ วันเปลี่ยนประเภทเงินลงทุน รวมทั้งยังมีการรับรู้การด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทร่วมค้า ส่งผลให้ในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2564 ที่ 158%