CGS-CIMB ให้เป้าดัชนีหุ้นปีนี้ 1,690 จุดหากคุมโควิดได้ใน Q3/64

HoonSmart.com>>CIMBT เชื่อการรวมกลุ่มของอาเซียน ช่วยลดผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่กระทบจากโควิด คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังโตได้ 0.7% หากรัฐคุมการแพร่เชื้อได้ในไตรมาส3 หนุนดัชนีหุ้นไทยปีนี้แตะที่ 1,690 จุด แต่หากยืดเยื้อถึงไตรมาส 4 หุ้นไทยทรุดต่ำกว่า 1,500 จุด

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยในโอกาสวันอาเซียน ซึ่งตรงกับวันที่ 8 เดือน 8 ของทุกปี ว่า การรวมกลุ่มของอาเซียนแสดงให้เห็นว่าโลกาภิวัฒน์สามารถสนับสนุนประเทศขนาดเล็กให้ได้ประโยชน์จากการเติบโตการค้าโลกได้ และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยบรรเทาผลกระทบจากการชะลอตัวภายในประเทศจากปัญหาโควิด อาเซียนจึงมีโอกาสทางธุรกิจสำหรับนักลงทุนไทย เพราะแต่ละประเทศมีศักยภาพ ด้วย 3 ปัจจัย คือ เศรษฐกิจโตเร็ว ชนชั้นกลางเพิ่มต่อเนื่องสะท้อนภาพกำลังซื้อที่ดี และการเชื่อมโยงกับภูมิภาคอื่น เป็นปัจจัยสำคัญที่จะเห็นภาพของอาเซียนยังเป็นศักยภาพที่เติบโตได้ในอนาคต

ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ ขึ้นกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดเป็นหลัก โดยหากควบคุมโควิดได้ และ เปิดประเทศได้บางส่วนภายในไตรมาส 3 ธนาคารยังเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะโตได้ 0.7% ซึ่งเป็นเป้าหมายเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา

“ธนาคารยังคงเป้าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 0.7% แต่จะมีโอกาสติดลบหรือไม่ คงต้องรอดูเดือนสิงหาคมก่อนว่ารัฐบาลจะคุมการแพร่ระบาดได้แค่ไหน ซึ่งสิ่งที่ต้องติดตามได้แก่ ภาคการผลิตซึ่งหากมีการติดเชื้อมากจนต้องปิดโรงงานจะกระทบกับการผลิต และการระบาดในประเทศผู้นำเข้าสินค้าจากไทย เพราะหากมีการแพร่ระบาดมากจนต้องปิดประเทศอีกรอบ จะทำให้การส่งออกที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก แต่โจทย์ที่ท้าทายของไทยน่าจะเป็นปี 2565 “ดร.อมรเทพ กล่าว

นายเกษม พันธ์รัตนมาลา, CFA กรรมการ และหัวหน้าฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การระบาดของโควิดที่มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย โดยขายไปแล้วกว่า 9 หมื่นล้านบาท YTD (year-to-date) และถ้ารวมกับปีก่อน เป็นการเทขายรวม 2.6 แสนล้านบาทแล้ว รวมทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนค่าแตะที่ระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์ หรืออ่อนค่าลงไปประมาณ 10% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังไม่กลับมาเข้ามาซื้อในตลาดหุ้นไทย

ซึ่งต้องติดตามการแพร่ระบาดโควิดอย่างใกล้ชิด เพราะหากควบคุมได้ภายในไตรมาส 3 คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 1,690 จุด แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อไปถึงไตรมาส 4 ก็มีโอกาสที่ดัชนีหุ้นไทยจะต่ำกว่า 1,500 จุด

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท เช่น กลุ่มส่งออก กลุ่มอาหาร กลุ่มผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มโรงพยาบาล ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียนในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 42-43% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนปี 2565 น่าจะอยู่ที่ 13-14%

นายดนัย อรุณกิตติชัย,CFA ผู้บริหารที่ปรึกษาการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงิน Wealth Advisory by CIMB THAI ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า การจัดพอร์ตการลงทุนเรายังคงแนะนำให้กระจายการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งรวมไทยและอาเซียนด้วยในช่วง 11% ถึง 39% ตามระดับความเสี่ยงจากพอร์ตความเสี่ยงต่ำสุดไปถึงสูงสุด โดยในช่วงที่ผ่านมาเน้นการลงทุนในเวียดนาม แต่หากมองไปในอนาคต การกระจายบางส่วนลงทุนภูมิภาคอาเซียนก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

กองทุนที่ให้ผลตอบแทนโดนเด่นยังเป็นกองทุนที่ลงทุนในเวียดนามที่เป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในภูมิภาค โดยกองทุนหลัก ได้แก่ กองทุน Principal VNEQ-A ที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา ส่วนกองทุนที่ลงทุนในภูมิภาคอาเซียนแม้ผลตอบแทนจะต่ำกว่ากองทุนเวียดนามแต่ความเสี่ยงในแง่ของความผันผวนก็น้อยและเนื่องจากกระจายการลงทุนไปยังหลากหลายอุตสาหกรรมและในหลายประเทศ ได้แก่ กองทุน KT-ASEAN