หุ้นไฟฟ้า-ปันผลเกิน 2% เด่น ยืมช็อตพุ่ง 1.1แสนลบ.ไล่ซื้อแบงก์คืน

HoonSmart.com>> กนง.เสียงแตกคงดอกเบี้ยนโยบาย หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้เหลือ 0.70% จาก 1.80% กกร. กดจมลึกติดลบ 1.5 ถึง 0% นักลงทุนโดดเข้าหุ้นไฟฟ้า- Defensive บล.เอเซีย พลัสเชียร์หุ้นปันผล ทยอยซื้อช่วง 1 เดือนถึง 1 เดือนครึ่ง หวังกำไรหุ้นประมาณ 1.5-3% บล.เมย์แบงก์ฯ ชู MCS  บล.ฟินันเซียฯ ชอบ TVO-KKP-ORI  บล.บัวหลวงมองตลาดรีบาวด์ หลังยอดยืมช็อตสะสมเดือนก.ค.กว่า 1.15 แสนล้านบาท คาดมีแรงซื้อหุ้นคืน เด่นสุดกลุ่มแบงก์ KBANK, SCB ราคาลงลึก แถมเงินปันผล

 

ตลาดหุ้นวันที่ 4 ส.ค.2564 ดัชนีปิดที่ 1,545.86 จุด เพิ่มขึ้น 5.35 จุด หรือ +0.35% มูลค่าการซื้อขาย 66,896.57 ล้านบาท นำโดยหุ้นโรงไฟฟ้า จากแรงซื้อของสถาบันไทย 2,211.07 ล้านบาท สวนทางต่างชาติขาย 1,917.76 ล้านบาท

แรงซื้อหุ้นไม่สนเศรษฐกิจถดถอย กนง.ปรับลดคาดการณ์ปีนี้โตเพียง 0.70% จากเดิมคาดไว้ที่ 1.80% และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับลดลงแรงถึง -1.5 ถึง 0% รวมถึงเงินบาทอ่อนค่ารุนแรง 33.12/14 บาทต่อดอลลาร์

นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 4 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี ขณะที่ 2 เสียงเห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% และกรรมการ 1 ท่าน ลาประชุม

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงายวิจัย บล. เอเซีย พลัส กล่าวว่า ช่วงเดือน ส.ค.นี้หุ้นมีความผันผวนค่อนข้างสูง จากสถานการณ์โควิดและวัคซีน รวมถึงปัจจัยเสี่ยงในการใช้ Tapering จากธนาคารกลางสหรัฐที่รออยู่ ทำให้การเลือกหุ้นปันผลระหว่างกาลดูมีความน่าสนใจ จากสถิติราคามีโอกาสจะผันผวนน้อยกว่าตลาด และจะปรับขึ้นได้ดีก่อนวันกำหนดจ่ายปันผล

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำทยอยซื้อหุ้นในช่วง 1 เดือน ถึง 1 เดือนครึ่งต่อจากนี้ คาดว่าจะได้กำไรจากราคาหุ้นประมาณ 1.5-3% ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD โดยแบ่งการลงทุนตามนักลงทุนที่รับความผันผวนได้ 3 ระดับ ได้แก่ 1.ความผันผวนต่ำ และปันผลระหว่างกาลสูง แนะนำ TVO, EASTW และ STGT 2.ความผันผวนปานกลาง และปันผลระหว่างกาลสูง มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว แนะนำ MCS, SAT, ADVANC, NER และ SPALI 3.ความผันผวนสูง ปันผลระหว่างกาลสูง และราคาหุ้นช่วงเดือน ส.ค.เคลื่อนไหวได้ดี แนะนำ SAPPE, ORI, JMART และLALIN ทั้งนี้แนะนำถือจนได้รับเงินปันผลและทยอยขาย เนื่องจากราคาหุ้นจะลดลงหลังจากมีการจ่ายปันผล

ด้านนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในช่วงนี้น่าสะสมหุ้นที่ปันผลระหว่างกาล และมีแนวโน้มกำไรดี  คาดราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวได้ดีก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD หลักการเลือกควรเน้นหุ้นมีแนวโน้มปันผลระหว่างกาลดี และต้องมีแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2  และช่วงครึ่งหลังของปีที่ดีด้วย แนะนำ MCS คาดจ่ายปันผลปี 2564 ที่ 8.2% แบ่งเป็นระหว่างกาลที่ 3.4% แถมมี P/E ที่ 6.8 เท่า อีกทั้งแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2564 โดดเด่น

“การเลือกลงทุนในหุ้นปันผลระหว่างกาล ถ้าให้ผลตอบแทนมากกว่า 2% ก็พอใช้ได้แล้ว แต่เราก็ต้องเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรดีด้วย  ส่วนการขายก่อนขึ้น XD หรือขายหลังจากรับเงินปันผลแล้ว ก็ต้องแล้วแต่นักลงทุนว่าชอบแบบไหน รวมถึงต้องดูสภาวะตลาดด้วย แต่หลังวันหมดสิทธิรับเงินปันผล ราคาหุ้นปรับตัวลดลง ถ้าสภาวะตลาดขาลง ก็อาจจะขายทำกำไรก่อนขึ้น XD หรือตลาดขาขึ้น อาจจะรับเงินปันผล แล้วรอราคาดีดกลับก็ได้” นายวิจิตร กล่าว

ส่วนนายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หุ้นที่มีการประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล คาดว่าจะเคลื่อนไหวได้ดี อาจจะมีแรงซื้อเก็งระยะสั้น นักลงทุนควรเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เป็นอีกปัจจัยในการลงทุนด้วย แนะนำ TVO, KKP และ ORI คาดว่าจะจ่ายปันผลกลางที่ 3-4% และราคาหุ้นมีโอกาสจะปรับขึ้นได้มากกว่า 10% จากปัจจุบัน  นักลงทุนสามารถขายทำกำไรก่อนขึ้น XD  หรือจะรอรับเงินปันผลก็ได้

ด้านบล.บัวหลวง คาดดัชนีรีบาวด์ต่อ จากแรงซื้อหุ้นคืนหลังจากราคาหุ้นหลายตัวมีปริมาณการยืมช็อตสะสมมาตลอดเดือนก.ค.กว่า 1.15 แสนล้านบาท ขณะที่หุ้นร่วง ราว 5% จากจุดสูงสุด

ส่วนหุ้นที่มียอดติด 10 อันดับ Short สูงสุด มองว่ามีโอกาสจะถูกซื้อคืน เด่นสุดกลุ่มธนาคารเช่น KBANK, SCB ด้วยราคาที่ให้ส่วนส่วนลดสูงกว่าหุ้นในกลุ่มปตท. ประกอบกับโอกาสปันผลของกลุ่มแบงก์เป็นตัวเร่งการซื้อคืน

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ค่าเงินบาทอ่อนมากหลังประชุมกนง. เคลื่อนไหวที่ 33.115 บาทต่อเหรียญฯ เป็นบวกต่อส่งออก แนะนำทยอยสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก เงินบาทอ่อนค่าที่แนวโน้มกำไรจะเด่นในไตรมาส 2-3 ปี 2564

“ค่าเงินบาทอ่อน ทุกๆ 1 บาท บวกต่อเกษตรอาหาร กำไรสุทธิเพิ่ม 3-1% TU, CPF, ASIAN, NER, XO, SAPPE กลุ่มชื้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์  กำไรสุทธิเพิ่ม 3-2% HANA, KCE, SMT กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม AMATA กลุ่มวัสดุก่อสร้าง EPG +3%”บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุ