ดาวโจนส์ปิดลบ 97 จุด กังวลไวรัสเดลตา

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 97 จุด กังวลการแพร่ระบาดสายพันธุ์เดลตา หลังยอดติดเชื้อในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ด้านผลตอบแทนพันธบัตร ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 3% นักลงทุนกังวลการเติบโตของเศรษฐกิจ ดานตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 2 สิงหาคม 2564 ปิดที่ 34,838.16 จุด ลดลง 97.31 จุด หรือ -0.28% จากความกังวลต่อการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาและความวิตกว่าเศรษฐกิจแตะระดับสูงสุดไปแล้ว ซึ่งกลบผลการดำเนินงานที่สดใส

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,387.16 จุด ลดลง 8.10 จุด, -0.18%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,681.07 จุด เพิ่มขึ้น 8.39 จุด, + 0.06%

ในช่วงแรกของการซื้อขาย ตลาดปรับตัวขึ้นด้วยแรงซื้อที่กลับเข้ามาหลังจากตลาดร่วงลงในสัปดาห์ก่อน และจากรายงานข่าวว่า วุฒิสภากำลังผลักดันร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งรวมวงเงิน

ให้ได้ก่อนปิดสมัยการประชุมในวันที่ 9 สิงหาคม

แต่ตลาดอ่อนตัวลงหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและราคาน้ำมันดิบร่วงลง ซึ่งส่งสัญญาณว่านักลงทุนบางส่วนกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจแม้ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่ง

นักวิเคราะห์จาก Canaccord Genuity ระบุว่า ความกังวลเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์เดลตา และความวิตกว่าเศรษฐกิจแตะระดับสูงสุดไปแล้ว

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาที่ 1.17% หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) รายงาน ดัชนีภาคการผลิตเดือนกรกฎาคมลดลงมาที่ระดับ 59.5 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม และต่ำกว่า 60.9 ที่นักวิเคราะห์คาด ยิ่งเพิ่มความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ

ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาสหรัฐฯมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 63,000 ราย ใกล้ระดับสูงสุดของเดือนเมษายนปีก่อน ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นและบริษํทหลายแห่งได้เริ่มใช้มาตรการใหม่ ทั้งกำหนดให้พนักงานสวมหน้ากากในพื้นที่เสี่ยงสูง และกำหนดให้พนักงานฉีดวัคซีน ในซานฟรานซิสโกสั่งให้มีการสวมหน้ากากเริ่มสัปดาห์นี้ ส่วนในนิวยอร์กสั่งให้สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในอาคารแม้ฉีดวัคซีนครบแล้ว

หุ้นกลุ่มการเดินทางลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับการใช้กฎระเบียบด้านสุขอนามัยที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ลดลง 1.57% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ลดลง 1.39% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ลดลง 1.13%

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวขึ้นขานรับความคืบหน้าการผลักดันร่างกฎหมายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยหุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี เพิ่มขึ้น 1.03%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น 1.8% จากการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนและการควบรวมกิจการของบริษัท ในยุโรป

ในอังกฤษ มีรายงานว่า Clayton, Dubilier & Rice เตรียมที่จะเทคโฮเวอร์ Morrisons ซูเปอร์มาเก็ต ขณะที่บริษัท Parker-Hannifin จากสหรัฐฯตกลงที่จะซื้อหุ้น Meggitt บริษัทคู่แข่งในอังกฤษในมูลค่า 6.3 พันล้านปอนด์

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 464.45 จุด เพิ่มขึ้น 2.71 จุด, +0.59%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,081.72 จุด เพิ่มขึ้น 49.42 จุด,+0.70%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,675.90 จุด เพิ่มขึ้น 63.14 จุด, +0.95%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,568.73 จุด เพิ่มขึ้น 24.34 จุด, +0.16%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 2.69 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 71.26ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 2.52 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 72.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.69 ดอลลาร์ ทองขยับขึ้น