SPRC ย้ำค่าการกลั่นทั้งปีอยู่ในกรอบ 6-8 เหรียญ/บาร์เรล จับตาความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในจีนกดดันค่าการกลั่นในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังไตรมาส 2 ยอดใช้ชะลอตัว เตรียมปิดซ่อมใหญ่โรงกลั่น พ.ย.ปีหน้า
นายศักดิ์ชัย ธรรมสุรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดหาและวางแผนธุรกิจ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เปิดเผยว่า แม้ว่าค่าการกลั่น (Gross Refining Margin) ที่บริษัททำได้ในช่วงไตรมาส 2 จะอยู่ที่ 6.0 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจาก 6.9 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในช่วงไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว และลดลงจาก 7.2 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ แต่สถานการณ์ค่าการกลั่นในช่วงไตรมาส 3 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และจากความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาวหรือไตรมาส 4 จะทำให้ค่าการกลั่นที่บริษัททำได้เป็นไปตามคาดการณ์ที่ 6-8 เหรียญต่อบาร์เรล
“ค่าการกลั่นไตรมาส 2 ที่ลดลงเหลือ 6.0 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็นผลจากความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปในจีนที่ชะลอตัวลง ซึ่งอาจมาจากหลายปัจจัย เช่น เศรษฐกิจจีนที่เติบโตแบบชะลอตัว รวมถึงผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่เราจะพบว่าในช่วงปลายไตรมาส 2 ค่าการกลั่นมีการปรับตัวสูงขึ้นแล้ว และน่าจะทำให้ค่าการกลั่นไตรมาส 3 เคลื่อนไหวที่ 6-7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในจีนช่วงที่เหลือของปีนี้ว่าจะดีขึ้นหรือไม่ ส่วนน้ำมันดิบทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย 70-75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล”นายศักดิ์ชัยกล่าว
ทั้งนี้ ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา SPRC มีกำไรสุทธิ 2,323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 291% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไร 593 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ทำให้กำไรเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นมาจากการกำไรสต็อกน้ำมัน
นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า ความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในภาพรวมยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปีหน้าคาดว่าความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปจะเพิ่มขึ้นอีก 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในอินเดียและจีน และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปรวมอยู่ที่ 100.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่กำลังการกลั่นในช่วงปี 2561-2563 อยู่ที่ 32.1-34.3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับการกลั่นที่ใกล้เคียงกับความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูป และในช่วงที่ผ่าน SPRC สามารถใช้กำลังการกลั่นที่มีอยู่ 1.65 แสนบาร์เรลต่อวันได้ทั้ง 100%
นายวิชัย ชุณหสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการฝ่ายการเงินและการคลัง SPRC กล่าวว่า การปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นสูญญากาศในช่วงวันที่ 1-15 ส.ค.ที่ผ่านมา มีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทน้อยมากและไม่มีนัยยสำคัญแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในเดือนพ.ย.ปีหน้า SPRC จะปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปี ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างประเมินว่าต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าใด ขณะที่การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นครั้งก่อนในปี 2557 บริษัทปิดโรงกลั่นไป 38 วัน และใช้งบปรับปรุง 40-50 ล้านเหรียญสหรัฐ
“ตอนนี้โรงกลั่นของเรามีกำลังการกลั่นที่ 1.65 แสนบาร์เรลต่อวัน และขณะนี้อยู่ระหว่างลงทุนขยายกำลังการผลิตอีก 1 หมื่นบาร์เรลต่อวัน โดยใช้งบลงทุนที่ 80 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งกำลังการผลิตใหม่ดังกล่าว จะเริ่มกลั่นได้ในช่วงหลังเดือนพ.ย.2562 จึงเท่ากับว่าหลังจากปิดซ่อมใหญ่โรงกลั่นแล้วเสร็จ โรงกลั่นของ SPRC จะมีกำลังการกลั่นรวมเพิ่มเป็น 1.75 แสนบาร์เรลต่อวัน” นายวิชัยกล่าว
