PTTEP ปันผล 2 บาท ขึ้น XD 11 ส.ค.นี้ “บล.ดีบีเอสฯ” แนะซื้อเป้า 156 บาท

HoonSmart.com>> บอร์ดปตท.สผ. ไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นอัตรา 2 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 11 ส.ค.นี้ จ่ายเงิน 27 ส.ค.64 ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส คงคำแนะนำ “ซื้อ” PTTEP เป้า 156 บาท ด้านบล.ทรีนีตี้ ให้เป้า 155 บาท คาดกำไรครึ่งปีหลัง 1-1.2 หมื่นล้านบาท ราคาก๊าซขยับขึ้น ราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง หนุนทั้งป๊กำไรโต 82%

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 ก.ค.2564 ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานรวมของกลุ่มบริษัทฯ งวด 6 เดือนแรกของปี 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 – 30 มิ.ย.2564 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยเป็นเงินปันผลจ่ายจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่เสียภาษีเงินได้ปิโตรเลียมทั้งจำนวน โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 13 ส.ค.2564 ซึ่งจะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 ส.ค.2564

หุ้น PTTEP ปิดตลาด 29 ก.ค.64 ที่ราคา 107.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.47% มูลค่าการซื้อขาย 582.68 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2564 มีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ยังคงสูง, อุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณขายคาดว่าจะลดลง -8%QoQ เพราะการเรียกก๊าซจาก PTT น้อยลง คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 156 บาท

ด้านกำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 เท่ากับ 7.14 พันล้านบาท ลดลง -65%YoY, -38%QoQ ต่ำกว่าที่เราคาด 25% ต่ำกว่าตลาดคาด 41% สำหรับ Norm profit อยู่ที่ 11.09 พันล้านบาท เติบโต +39%YoY, +189%QoQ ซึ่งต่ำกว่าที่เราประเมินไว้ 9% มีขาดทุนจากการทำประกันความเสี่ยง 3.9 พันล้านบาท มากกว่าที่เราคาดไว้ที่ 2.2 พันล้านบาท

ราคาขายเฉลี่ย 2Q64 เพิ่มขึ้น +21%YoY, +4%QoQ เป็น 42.19 US$/boe ด้านปริมาณขายเพิ่มขึ้น ส่วน Unit cost ลดลง -10%YoY และ -3%QoQ เป็น 27.24 US$/boe

ด้รนบล.ทรีนีตี้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” PTTEP และราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 155 บาท หลังรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/64 ที่ 7.1 พันล้านบาท เติบโต 65% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 38% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาดจากผลของขาดทุน Hedging ถ้าไม่นับรวมรายการพิเศษกำไรปกติไตรมาส 2/64 จะอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 275% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและเติบโต 36% จากไตรมาสก่อน ซึ่งใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้

แนวโน้มครึ่งปีหลังนี้คาดว่ากำไรยังอยู่ที่ระดับ 1.0-1.2 หมื่นล้านบาท จากราคาขายก๊าซที่จะทยอยปรับขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันยังคงทรงตัวในระดับสูง 70-75 ดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้นเราคงประมาณการกำไรปี 2564 ที่ 4.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 82% จากงวดเดียวกันของปีก่อน