“หมอวิน-รัชต์ชยุตม์” เปิดใจ ทำไม??? เลือกลงทุนหุ้น APURE

HoonSmart.com>>”หมอวิน-รัชต์ชยุตม์” เปิดใจ ทำไม!!!! เลือกลงทุนหุ้น APURE สวนทางภาวะวิกฤตโควิด-19

รัชต์ชยุตม์ จีระพรประภา

“รัชต์ชยุตม์ จีระพรประภา” หรือ “หมอวิน” นักลงทุนเทคนิค-หุ้นพื้นฐาน ให้สัมภาษณ์ www.HoonSmart.com ถึงภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นที่ซึมลง จากวิกฤตโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อระดับ 10,000 คน และทำนิวไฮ 13,000 คน

ขณะเดียวกัน “หมอวิน” กลับเข้าลงทุนในหุ้นบริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) โดยการซื้อบิ๊กล็อต จำนวน 30 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 6.40 บาท ว่า ตั้งแต่เกิดการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ช่วงแรก ๆ หรือ 2 เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไม่ได้สนใจโควิดมากนัก เนื่องจาก ตลาดหุ้นมีสภาพคล่องจำนวนมาก แต่หลังจากตลาดรับรู้ว่า ประเทศไทย ไม่สามารถบริหารจัดการวิกฤตนี้ได้ บ่งบอกว่าตลาดทุนมีความเสี่ยง

ความเสี่ยงที่ว่า ดูได้จากไหนบ้าง 1.ค่าเงินบาทที่อ่อนยวบ เร่งตัวช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน จาก 31 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ลงมา 32.85 บาท หรือราว 6%

“การที่เงินบาทอ่อนตัว นั่นหมายความว่า สถาบัน หรือกองทุนต่างประเทศ มองเราไม่ดี โดยขายหุ้นในตลาดทุน และตราสารหนี้ ซึ่งต่างชาติทำทั้ง 2 อย่าง ”

หมอวิน อธิบายอีกว่า การเติบโตของเศรษฐกิจไทย มาจากเครื่องจักรขับเคลื่อน 4 ประการคือ

  1. การบริโภคภายในประเทศ ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากโควิด
  2. การลงทุนภาคเอกชน …ไม่มีการลงทุนใหม่ ๆ
  3. การลงทุนภาครัฐ ….ชะลอลงทุน
  4. การส่งออก-นำเข้า ….เดินต่อได้

แล้วบริษัทหรือกลุ่มอะไร ที่ได้ประโยชน์จากการส่งออก ????

“หมอวิน” บอกว่า กลุ่มอาหาร-เกษตร, กลุ่มยานยนต์ และอิเลคทรอนิคส์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการส่งออก แต่กลุ่มอิเล็กฯ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมามาก

ดังนั้นกลุ่มอาหาร-การเษตร จึงเป็นกลุ่มที่ “หมอวิน” ให้ความสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหุ้นอาหาร ซึ่ง “หมอวิน” ยกตัวอย่างหุ้น ASIAN (เอเชี่ยน ซี คอร์ปอเรชั่น) ขณะนี้ราคาขึ้นไปจากต้นปี 6-7 บาท ขึ้นมา 20 บาท หรือขึ้นมา 200% เป็นการพิสูจน์แล้วว่า หุ้น ASIAN ที่นักลงทุนไม่มองหุ้นตัวนี้  แต่วันนี้ ASIAN มีการปรับตัว จากการนำวัตถุดิบที่มี ไปผลิตสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากขึ้น

ส่วนภาคเกษตรหุ้น KWM ต้นปี ราคา 1 บาท ขึ้นไป 5 บาท ที่ได้ผลดีจากภาคเกษตร ซึ่งไทยเป็นประเทศการเกษตร และพัฒนาธุรกิจเข้าสู่เครื่องมือสกัด

” การเลือกหุ้นลงทุนของผม สำคัญที่สุดคือ ต้องมองเครื่องจักรยนต์ที่เดินเครื่องอยู่ ซึ่งกลุ่มที่ลงทุนได้ในขณะนี้คือกลุ่มอาหาร-กลุ่มเกษตร การที่ไทยเป็นครัวโลก การส่งออกอาหาร จึงได้ประโยชน์จากวิกฤตโควิดของโลกขณะนี้”

จุดเด่น APURE …Ready to Eat , Ready to Cook

สำหรับ APURE ที่ “หมอวิน” ไปลงทุนนั้น เขามองจุดเด่นที่เป็นจุดแข็งของ APURE คือ การมีคอนแทรคฟาร์มมิ่งข้าวโพด แต่ข้าวโพดไม่ได้เป็นอาหารหลักของคนไทย ขณะเดียวกัน ต่างประเทศ เช่น ยุโรป และสหรัฐ  พบว่า ข้าวโพด เป็นอาหารหลัก Ready to Eat (พร้อมรับประทาน) Ready to Cook  พร้อมปรุง) บ่งบอกว่า ธุรกิจแบบนี้กำไรดี

“หมอวิน” ยกการศึกษางบการเงิน APURE  ย้อนหลัง 3 ไตรมาส  พบว่า เป็นบริษัทที่มีกำไรขั้นต้น 25-26%   ของรายได้ และกำไรสุทธิ 2 หลัก หรือ 10-13%  ซึ่งดีกว่า ASIAN ที่มีกำไรขั้นต้น 16-17 % และ Net 7-8 %  ซื้อขายบนพี/อี 20 เท่า และถ้าปีนี้ APURE เป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ บนสมมุติฐานกำไรปีนี้ 400 ล้านบาท จะมีพี/อี 16 เท่า  ต่ำกว่า ASIAN”

” ความเหมือนกันของ APURE-ASIAN คือ การส่งออกไปยุโรป และสหรัฐ กว่า 90% ซึ่งทั้ง 2 ภูมิภาคนี้ รับวัคซีนไปแล้วจำนวนมาก การส่งออกตลาดนี้ ยังดี ประชาชน  มีการตุนอาหารในบ้านพร้อมกิน พร้อมปรุง กล้ากิน ฉะนั้น ไม่แปลกที่หุ้นส่งออกเพื่อการบริโภคทั้ง 2 ตัวนี้ ไปดี” หมอวิน ย้ำในที่สุด

 

ลือ”หมอวิน” ยกบิ๊กล็อต APURE 30 ล้านหุ้น ซื้อ 6.40 บาทสูงกว่าตลาด