APURE เดินเกมรุก “ข้าวโพดหวาน” ส่งซิกไตรมาส 4 ปิดดีลลูกค้าใหม่

HoonSmart.com>>“APURE” เดินเกมรุก ธุรกิจ “ข้าวโพดหวาน” เจาะตลาดวอลมาร์ท (Walmart) ค้าปลีกขนาดใหญ่สหรัฐฯ และตลาดในยุโรป  เพิ่มกำลังผลิตขนาด 15 ออนซ์ หวังรองรับความต้องการสินค้ากลุ่มวอลมาร์ททั่วโลก  ตั้งเป้า 3 ปี (2564-2566) รายได้เติบโตนิวไฮเฉลี่ย 30-40% ต่อปี ส่งซิก Q4/64 เตรียมปิลดีลลูกค้ารายใหม่

สุเรศพล จึงรุ่งเรืองกิจ

นายสุเรศพล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์  (APURE)  ผู้ส่งออกข้าวโพดหวานแปรรูปคุณภาพสูง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ 3 ปี (64-66 ) เติบโตไม่ต่ำกว่า 30-40% ต่อปี หลังจากบริษัทฯ  ทำการตลาดในประเทศสหรัฐ เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค

เนื่องจากรสชาติข้าวโพดไทย มีเอกลักษณ์และมีความแตกต่าง ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์)ใหม่ จากวอลมาร์ท (Walmart) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เข้ามาสูงถึง 4,400 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี  เบื้องต้นบริษัทฯ ส่งสินค้าดังกล่าวได้จำนวน 1,400 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี ตามกำลังผลิตในปัจจุบัน

ผู้บริหาร กล่าวอีกว่า  บริษัท ฯ มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตข้าวโพดหวานแปรรูป ขนาดกระป๋อง 15 ออนซ์ ภายใต้งบลงลทุน 50 ล้านบาท  คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2564 เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่เข้ามาเพิ่มเติม ทำให้กำลังผลิตเพิ่มอีก 2,000 ตู้ คอนเทนเนอร์/ปี  จากปัจจุบัน 2,000 ตู้คอนเทนเนอร์  ส่งผลอนาคต มีศักยภาพรองรับได้สูงถึง 4,000 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี

นายสุเรศพล ยอมรับว่า  การเจาะตลาดวอลมาร์ท (Walmart) ที่สหรัฐฯได้ ทำให้บริษัทฯมีโอกาสรับเลือกเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ประกอบการส่งออกข้าวโพดหวานแปรรูป อาทิ ข้าวโพดหวานเมล็ดบรรจุกระป๋อง ข้าวโพดหวานครีมบรรจุกระป๋อง ข้าวโพดหวานบรรจุถุงสุญญากาศ ข้าวโพดฝักอ่อนบรรจุกระป๋อง เพื่อจำหน่ายเพิ่มเติมในวอลมาร์ท (Walmart) ที่มีสาขากระจายอยู่หลายประเทศทั่วโลกในอนาคตอีกด้วย

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังส่งออเดอร์ให้กลุ่มลูกค้ารายอื่น ๆ ในสหรัฐฯ อีกกว่า 400– 500 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปีเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้บริษัทฯยังมีลูกค้ากลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ที่ยังคงมีดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นจากยอดออเดอร์ในปีนี้ ที่มีเข้ามาแล้วกว่า 500 ตู้คอนเทนเนอร์ จากปีก่อนที่ส่งออกไป EU เพียง 40-50 ตู้คอนเทนเนอร์เท่านั้น

“หลังจากบริษัทฯ ชนะคดีการเก็บภาษีทุ่มตลาด ส่งผลให้บริษัทฯเสียภาษีนำเข้าสินค้าไปจำหน่าย ในยุโรป ลดลงเหลือ 3 % จากเดิมที่ 13 % ซึ่งปัจจุบันบริษัทอื่น ๆ ในไทย ยังเสียภาษีนำเข้า 13 % นั้นหมายความว่า ประสิทธิภาพในการแข่งขันของบริษัทฯ สูงขึ้นในการส่งออกตลาดยุโรป ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ มีการบริโภคข้าวโพดสูง”

นายสุเรศพล กล่าวอีกว่า ช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์โครงสร้างทางธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องระยะสัญญาในการซื้อขายและส่งมอบ  เป็นระยะเวลา 6-12 เดือน จากเดิมสัญญาระยะยาว 2-3 ปี  เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านการปรับราคาสินค้าตามต้นทุน รวมถึงจัดเป็นการช่วยบริหารต้นทุนการขนส่ง และยังเป็นการป้องกันความผันผวนจากค่าเงิน

“สำหรับการบริหารความเสี่ยงค่าเงิน ในะระยะเวลาที่แตกต่างกัน ให้มีความเหมาะสมที่กรอบ 30 % 50 % และ 80 % เพื่อไม่ให้มีผลกระทบจากค่าเงินที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่ราคากระป๋อง จะคำสั่งซื้อกระป๋องล่วงหน้าทันที 100 % ของคำสั่งซื้อที่เข้ามา และวัตถุดิบข้าวโพด บริษัทฯ ใช้การตกลงกับเกษตรกรในเครือของบริษัท (คอนแทรคฟาร์มมิ่ง) เพื่อให้มีความแน่นอน 100 % เช่นกัน บริษัทฯ จึงสามารถบริหารจัดการให้สามารถทำกำไรที่ดีต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา”

ผู้บริหาร กล่าวทิ้งท้ายว่า ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯจะมีข่าวดี กรณีการเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหม่ ซึ่งคาดว่าหากดีลดังกล่าวแล้วเสร็จ สามารถเริ่มทยอยส่งออเดอร์ ได้ในปี 2565 เป็นต้นไป

ขณะเดียวกัน ยังมีแผนเพิ่มเติมในการขยายกำลังการผลิตข้าวโพดกระป๋องขนาด 108 ออนซ์ อีก1,300 – 1,500 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 1,300 – 1,500 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี ทำให้ในอนาคตบริษัทฯจะมีไลน์ผลิตขนาด 108 ออนซ์อยู่ที่ 2,600 – 3,000 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี เนื่องจาก ดีมานด์ในขนาดดังกล่าว มีความต้องการสูงสำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ (B2B) โดยผลิตได้ทุกขนาด ตามความต้องการของตลาด ตั้งแต่ขนาด 8 ออนซ์ ถึง 108 ออนซ์ ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพทางธุรกิจ ซึ่งเป็นที่ยอมรับของกลุ่มลูกค้าทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มองว่า ครึ่งปีหลังยอดขายโดยรวม ยังเติบโตต่อเนื่อง จากดีมานด์การสั่งซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในต่างประเทศ อาทิ สหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น