“วัฒน์ชัย” แม่ทัพใหญ่ “STECH” เบอร์ 1 คอนกรีตแห่งสยาม

HoonSmart.com>> “วัฒน์ชัย” แม่ทัพใหญ่ “STECH” เบอร์ 1 ผลิต-จำหน่ายคอนกรีตอัดแรง แบรนด์ “ STEC”  อ้อนนักลงทุน ฝาก STECH เป็นหุ้นทางเลือกการลงทุน เติบโตสูงตามโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

นายวัฒน์ชัย มงคงศรีสวัสดิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต (STECH) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงภายใต้เครื่องหมายการค้า “STEC” อาทิ เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง เสาไฟฟ้าคอนกรีตอัดแรง และผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงต่างๆ รายใหญ่ของประเทศไทย ที่จำหน่ายให้ทั้งภาครัฐบาล และเอกชน ตลอดจนให้บริการขนส่งเสาเข็ม และตอกเสาเข็มลงดิน อีกทั้งยังให้บริการรับเหมาก่อสร้างเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก หรืองานก่อสร้างที่บริษัทฯ มีประสบการณ์ ได้แก่ งานติดตั้งระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 115 kV และงานออกแบบจัดหาพร้อมติดตั้งเคเบิลใยแก้วนำแสง

“วัฒน์ชัย” เรียนจบคณะวิศวะกรรมโยธา ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เริ่มทำงานที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อยู่ในหน่วยกองผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง หลังทำงานได้ 10 กว่าปี ก็ลาออกแล้วเริ่มจัดตั้งบริษัทร่วมกับเพื่อนในปี 2544 ชื่อ บริษัท สระบุรีเทคนิคคอนกรีต จำกัด ด้วยการซื้อโรงงานแห่งแรกที่จังหวัดสระบุรี เพื่อดำเนินกิจการผลิตและจำหน่ายคอนกรีต ต่อมาเริ่มขยายตัวโรงงาน และเปลี่ยนชื่อบริษัท เป็น บริษัท สยามเทคนิคคอนกรีต (STECH) ปัจจุบันมีโรงงานอยู่ 9 แห่ง ตามภูมิภาคต่างๆ ยกเว้นภาคใต้ เนื่องจากมีคู่แข่งที่เป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่แล้ว

ผลิตภัณฑ์ ที่ STECH ดำเนินการอยู่ เริ่มตั้งแต่  ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง แบ่งเป็นประเภทได้ดังนี้

เสาสปัน

1.เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ได้แก่ เสาเข็มรูปสี่เหลี่ยม เสาเข็มรูปตัวไอ เสาเข็มพืด (Prestress Concrete Pile, Square Pile, I Pile, Sheet Pile)

2.เสาไฟฟ้าคอนกรีตอัดแรง และผลิตภัณฑ์ประกอบเสาไฟฟ้า ได้แก่ เสาไฟฟ้า เสาตอม่อ คอนสปัน คานนั่งร้าน ฐานรากเสาไฟฟ้า และสมอบก (Electric Poles and Components)

3.ผลิตภัณฑ์คานสะพานและพื้นสะพาน ได้แก่ คานสะพานคอนกรีต (I Girder, Box Girder) และพื้นสะพานคอนกรีต (Plank Girder)

4.เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรง โดยใช้แรงเหวี่ยง ได้แก่ เสาเข็มสปัน (Spun Pile)

5.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตอื่น ๆ ได้แก่ แผ่นพื้น รางระบายน้ำ คานสำเร็จรูป บ่อพัก และคอนกรีตผสมเสร็จ (Other Prestress Concrete Products such as Concrete Plank, Concrete Drainage Gutter)

6.งานบริการขนส่ง และบริการตอกเสาเข็ม (Transportation and Piling/Installation Service)

เสาตัวไอ

นอกจากนี้ยังประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นงานรับเหมาก่อสร้างเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ และงานก่อสร้างที่บริษัทฯ มีผลงานและประสบการณ์เฉพาะทาง ได้แก่ งานติดตั้งระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 115 kV และงานออกแบบจัดหาพร้อมติดตั้งเคเบิลใยแก้วนำแสง

“ธุรกิจของเราเริ่มให้บริการตั้งแต่จากโครงการหมู่บ้าน อาคาร โรงงานต่าง ๆ โรงงานขนาดใหญ่ ไปจนถึงโครงการขนาดใหญ่ในประเทศ  เช่น โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางประอิน-สระบุรี-นครราชสีมา โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัดถนนราชพฤกษ์ กับถนนกัลปพฤกษ์  การเติบโตของธุรกิจ จะเติบโตตามโครงการ โครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ มีสัดส่วนรายได้ถึง 60-70% ของรายได้รวม โดยเรามีโรงงานครอบคลุมบริเวณโครงการต่าง ๆ เป็นจุดแข็ง และได้เปรียบการขนส่งที่รวดเร็ว” นายวัฒน์ชัย กล่าว

สำหรับผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลัง (2561-2563) บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,804.54 ล้านบาท , 1,712.83 ล้านบาท และ 1550.33 ล้านบาท ตามลำดับ  เห็นได้ว่ารายได้ปี 2563 ลดลง จากปี 2562 เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้แผนการลงทุนภาครัฐบางส่วนชะลอการลงทุน  แต่บริษัทยังคงรักษาการเติบโตของกำไรสุทธิได้ อยู่ที่ 85.74 ล้านบาท , 93.23 ล้านบาท และ 140.60 ล้านบาท มีเติบโตขึ้นทุก ๆ ปี โดยปีก่อน มีอัตรากำไรสุทธิราว 9%

ปี 2564 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20-25% ปัจจุบันมียอดขาย รอรับรู้เป็นรายได้ ประมาณ 80% ของเป้ารายได้ทั้งปีแล้ว  โดยไตรมาส 1/2564 มีรายได้รวม  399.90 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 32.89 ล้านบาท หรือเติบโต 6.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 8.23%

สัดส่วนรายได้ปัจจุบัน แบ่งออกเป็น งานที่ได้จากผู้รับเหมาประมูลโครงการภาครัฐบาล 60-70% , งานจากหน่วยงานราชการ 15% และที่เหลือจะมาจากเอกชน ซึ่งก็มีทั้งคอนโด Low Rise ,หมู่บ้านแนวราบ และโรงงานต่าง ๆ

ทั้งนี้ SETCH  เสนอขายหุ้นจำนวน 203.5 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 28.07% ของจำนวนหุ้นชำระแล้วทั้งหมด  มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1.00 บาทต่อหุ้น โดยมีบริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เข้าซื้อขายวันที่ 23 ก.ค.นี้

วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัท จะนำเงินไปลงทุน 1.ขยายธุรกิจเสาคอนกรีตอัดแรง ได้แก่ โครงการก่อสร้างโรงงานใหม่ที่จังหวัดชลบุรี สาขา 2

2. รองรับความต้องการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในโครงการ EEC , ลงทุนขยายกำลังการผลิตโรงงานดอนพุด , ลงทุนโครงการก่อสร้างโรงงานใหม่ที่จังหวัดมุกดาหาร ,ลงทุนซื้อรถขนส่งผลิตภัณฑ์คอนกรีต ปัจจุบันมีอยู่กว่า 40 คัน และลงทุนซื้อเครื่องกดสั่นสะเทือน

3.พัฒนาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต 4.ชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นประเภทตั๋วสัญญาใช้เงินจากสถาบันการเงิน คาดว่าหลังจากระดมทุนแล้วเสร็จ บริษัทจะมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ลดลงต่ำกว่า 1 เท่า จากปัจจุบันที่ 1.4 เท่า และ 5 .ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

โรงงาน STECH

ปี 2565 คาดว่า มีกำลังการผลิตรวม 430,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี เพิ่มขึ้น 30% จากการเปิดโรงงานชลบุรีสาขา 2 และการขยายกำลังการผลิตโรงงานดอนพุด จากเดิมมีกำลังการผลิต  318,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งจะทำให้บริษัทขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในด้านของขนาดกำลังการผลิต บนสมมติฐานที่คู่แข่งรายใหญ่ไม่เพิ่มกำลังการผลิต

นายวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า “อยากฝากให้นักลงทุนพิจารณาหุ้นของเราเป็นหนึ่งในทางเลือกของการลงทุน หุ้นของเราเป็นที่มีการเติบโตที่ดี และแนวโน้มงานโครงสร้างพื้นฐานยังมีเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ซึ่งเราเติบโตตามด้วย เรามีการเติบโตของกำไรสุทธิทุกปี การจ่ายเงินปันผลก็จ่ายแก่ผู้ถือหุ้นต่อเนื่อง โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อีกทั้งเราเป็นบริษัทที่ใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการผลิต ทำให้เรามีต้นทุนที่ดี และศักยภาพที่เหนือกว่าคู่แข่งแน่นอน”