HoonSmart.com>>เคทีซี ปรับแผนสู้โควิด-19 ดันกำไรครึ่งปีนี้ 3,352 ล้านบาท เติบโต 20.1% ไตรมาส 2 แตะ 1,703 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.2% หั่นเป้าการใช้จ่ายผ่านบัตรปีนี้เหลือโต 5% จากเดิมคาด 8% ผลจากโควิคที่ยืดเยื้อ ขณะที่ครึ่งปีหลังเน้นขยายธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกัน ตั้งเป้าปล่อยกู้ 1,000 ล้านบาท รักษาฐานสมาชิกและช่วยเหลือผู้เดือดร้อน
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานธุรกิจยังเติบได้ดี โดยบริษัทได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่การแพร่รระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องถึงระลอก 3 ได้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการจัดหาสมาชิกใหม่ทำได้ยากขึ้น รวมถึงการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้รวมและปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรขยายตัวได้ไม่มาก บริษัทจึงมีแผนสร้างโมเดลธุรกิจขยายตัวไปยังสินเชื่อมีหลักประกันมากขึ้น โดยซื้อหุ้น 75.05% ของบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง (KTBL) และภายหลังการตรวจสอบตามเงื่อนไขเสร็จสิ้นในเดือนพ.ย.นี้ KTBL จะเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของเคทีซี
สำหรับผลงานครึ่งปีแรก บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,352 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.1% และมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2 เท่ากับ 1,703 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.2% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งแม้ว่าบริษัทฯจะมีรายได้รวมลดลง แต่ยังสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายรวมให้ต่ำลง จากการลดค่าใช้จ่ายทางการเงินและผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงไปได้ อีกทั้งมีรายได้หนี้สูญได้รับคืนอยู่ในระดับที่ดีขึ้น และรักษาอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL) อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเดิม ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีหลายปัจจัยผันแปร ทำให้ไตรมาส 2 มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวมต่อรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย มีกำไรก่อนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงที่ -5% ซึ่งการมีพอร์ตลูกหนี้คุณภาพดี ทำให้ความจำเป็นในการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นน้อยลง ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโต
ส่วนเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม 89,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน NPLs ต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้รวมอยู่ที่ 4.4% เพิ่มขึ้นจาก 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2564 สาเหตุหลักมาจากการนับรวมพอร์ตลูกหนี้สัญญาเช่าซื้อจาก KTBL และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ความสามารถในการชำระของลูกหนี้ลดลง และ NPLs ต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้บัตรเครดิตเท่ากับ 1.5% บริษัทมีพอร์ตสมาชิกสินเชื่อบุคคล 802,971 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรับรวม 29,480 ล้านบาท NPLs ต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้บุคคลอยู่ที่ 3.0% พอร์ตลูกหนี้ตามสัญญาเช่า 4,255 ล้านบาท NPLs ต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้ตามสัญญาเช่าเท่ากับ 51.7%
บริษัทมีรายได้รวมในไตรมาส 2/2564 ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 5,406 ล้านบาท ในขณะที่รายได้รวมครึ่งปีแรก อยู่ที่ 10,798 ล้านบาท ลดลง -2.5% และมีค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 2/2564 เท่ากับ 3,278 ล้านบาท ลดลง -17.3%
ส่วนกลุ่มลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือมีทั้งสิ้น 21,564 บัญชี คิดเป็นยอดหนี้คงเหลือ 1,545 ล้านบาท
สำหรับทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง บริษัทจะขยายขอบเขตธุรกิจสินเชื่อให้หลากหลายและครอบคลุมทั้งเคทีซี พี่เบิ้ม และธุรกิจลีสซิ่ง เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อเบ็ดเสร็จครบวงจร ที่เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับสมาชิก และจะดูแลรักษาฐานสมาชิกที่มีอยู่เดิมให้ได้รับความพึงพอใจ โดยมีเป้าหมายหลักในปี 2564 ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะมีมูลค่า 200,000 ล้านบาท ขยายตัวที่ 5% ปรับลดลงจากประมาณการเดิมที่คาดว่าขยายตัว 8% บริหารมูลค่ายอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลให้ใกล้เคียงกับปี 2563 สำหรับสินเชื่อมีหลักประกัน “เคทีซี พี่เบิ้ม” รวมสินเชื่อจากบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง ตั้งเป้าหมายสินเชื่อที่ 1,000 ล้านบาท ด้านร้านค้ารับบัตรจะเน้นช่องทางออนไลน์ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร