GBS ให้กรอบดัชนี 1,520-1,580 จุด แนะช้อปหุ้นได้ประโยชน์ WFH

HoonSmart.com>>บล. โกลเบล็ก ประเมินหุ้นไทยยัง Sideway จากยอดจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พุ่งต่อเนื่อง และที่ประชุมกลุ่มประเทศ G20 ยังกังวลเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ บวกปัญหาข้อพิพาทการค้าสหรัฐ-จีนมีแววปะทุขึ้นอีกครั้ง จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 1,520-1,580 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นได้อานิสงส์ WFH


นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ มีโอกาสแกว่งตัว Sideway ออกข้าง โดยแรงกดดันหลักยังอยูที่สถานการณ์โควิดในประเทศที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับสูง และล่าสุดทางกลุ่มประเทศ G20 กังวลว่าเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ขณะที่ปัญหาข้อพิพาทการค้าสหรัฐ-จีนมีแววปะทุขึ้นอีกครั้งจากการที่คณะบริหารของ ปธน.โจ ไบเดน วางแผนเพิ่มชื่อบริษัทและหน่วยงานจีนอีกอย่างน้อย 10 แห่งในบัญชีดำทางเศรษฐกิจอย่างเร็วที่สุดในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่นเดียวกับทาง EU ได้ลงมติเห็นชอบให้ตัวแทนทางการทูตร่วมบอยคอตต์การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวประจำปี 2565 ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งเพื่อตอบโต้การละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตามคาดว่าจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบ WTI จะช่วยพยุงตลาดไว้ได้ จึงคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,520-1,580 จุด

ส่วนปัจจัยที่ยังต้องจับตานั้นปัจจัยในประเทศ อาทิ ประชุมครม. การเตรียมเปิด “สมุย พลัส โมเดล”การแจ้งงบไตรมาส 2/2564 ของหุ้นกลุ่มธนาคารระหว่าง 15 – 21 ก.ค. นี้ และ BOJ ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ด้านปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นตัวเลขเศรษฐกิจในแต่ละเดือนที่จะทยอยประกาศออกมา เช่น การรายงานยอดนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าเดือนมิ.ย.ของจีน และการรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าทางนายพาวเวล ประธาน FED แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร อียูรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. สหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ อีกทั้งจีนรายงาน GDP ไตรมาส 2/64 อัตราว่างงานเดือนมิ.ย. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. ส่วนสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก WFH ได้แก่ ADVANC- DTAC- TRUE -JAS DIF –JASIF- ITEL- INSET-NETBAY –YGG และ AS

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับตัวขึ้น 39 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ สู่ 1,806 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดไปทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา โดยล่าสุดรัฐบาลออสเตรเลียประกาศขยายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายเมือง อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา

นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีดิ่งลงแตะระดับ 1.33% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564 และ World Gold Council ซึ่งระบุว่า 1 ใน 5 ของธนาคารกลางรายใหญ่มีแผนที่จะเพิ่มทองคำในระบบทุนสำรองในปีหน้าเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้ราคาทองคำเริ่มมีสัญญาณรีบาวด์ทางเทคนิคจากการสร้างรูปแบบกลับตัว U Shape โดยฝ่ายวิจัยประเมินกรอบทองคำที่ 1,780-1,830 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ และแนะนำให้เล่นฝั่ง Short เมื่อมีการรีบาวด์ เนื่องจากมีคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดวงเงิน QE ลง 20,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนในการประชุมเฟดเดือน ส.ค. เป็นปัจจัยกดดันต่อทองคำในระยะกลาง