AP คุยครึ่งปีนี้ยอดโอนนิวไฮ 2 หมื่นลบ.ยอดขายแตะ 1.7 หมื่นลบ.

HoonSmart.com>> “เอพี ไทยแลนด์” ย้ำเป้าปี 2564 ยอดขายแตะ 3.55 หมื่นล้านบาท ยอดโอนแตะ 4.31 หมื่นล้านบาท รับรู้ 5 โครงการแนวราบที่เพิ่งเปิดตัวไปปลายไตรมาส 2  รับรู้ Backlog ปีนี้อีก 2.67 หมื่นล้านบาท จ่อเปิดเพิ่มอีก 26 โครงการ มูลค่ารวม 3.34 หมื่นล้านบาท ย้ำปิดแคมป์คนงานก่อสร้างไม่กระทบ มีสินค้ารอขาย 3 เดือน ส่วนครึ่งแรกของปี 2564 ลั่นผลงานนิวไฮ  

วิทการ จันทวิมล

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ (AP) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตในปี 2564 โดยมียอดขายอยู่ที่ 35,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 28,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 7,500 ล้านบาท จากปีก่อนมียอดขายอยู่ที่ 31,655 ล้านบาท และมียอดโอนอยู่ที่ 43,100 ล้านบาท

แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มมียอดขายและยอดโอนจาก 5 โครงการแนวราบที่เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงปลายไตรมาส 2 และจะรับรู้ยอดขายรอโอน (Backlog) ในปีนี้อีกประมาณ 26,721 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบประมาณ 16,636 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมอีก 10,085 ล้านบาท

บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง อีก 26 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 33,440 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 10 โครงการ มูลค่ารวม 13,310 ล้านบาท , บ้านทาวน์โฮม 12 โครงการ มูลค่า 7,130 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มยอดขายรอโอน (Backlog)  จากปัจจุบันอยู่ที่ 40,552 ล้านบาท แบ่งเป็นจากแนวราบ 16,636 ล้านบาท รับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมอีก 23,916 ล้านบาท รับรู้ปีนี้ 10,085 ล้านบาท ที่เหลือทยอยรับรู้ปี 2565 จำนวน 9,168 ล้านบาท และปี 2566 อีก 4,663 ล้านบาท

ส่วนการได้รับผลกระทบจากโควิด-19 บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ใหม่ ในการระมัดระวังการลงทุน และเปลี่ยนไปทำการตลาดทางด้านออนไลน์มากขึ้น และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆในตรงจุดมากขึ้น จากการทำการตลาดต่างๆ ส่วนการปิดแคมป์คนงานตามมาตรการภาครัฐ เป็นเวลา 1 เดือน เบื้องต้นประเมินว่ายังไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสินค้าพร้อมขายสามารถรองรับ 3 เดือน  และเมื่อเปิดการก่อสร้างได้ จะเร่งโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาให้เสร็จตามเวลาได้

สำหรับผลงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 บริษัทคาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 17,817 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบประมาณ 90% ของยอดขายรวมทั้งหมด หรืออยู่ที่ 16,430 ล้านบาท และอีก 10% เป็นยอดขายของคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 1,387 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมียอดขายอยู่ที่ 15,085 ล้านบาท และมียอดโอนอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมียอดโอนที่ 19,959 ล้านบาท ซึ่งทั้งยอดขายและยอดโอนจะทำตัวเลขสูงสุดใหม่ (New High)

“ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ไทย คาดว่าจะเริ่มกลับมาเหมือนก่อนโควิด-19 ได้ก็ต่อเมื่อมีการกระจายวัคซีนที่ดี และเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นมา ซึ่งเรามองว่าจะเป็นช่วงกลางปี 2565 เช่นเดียวกันกับภาคท่องเที่ยวก็ต้องฟื้นตัวตามมาด้วย ปัจจุบันเรามีลูกค้าต่างประเทศบ้าง ยังมีความสนใจอยู่ทั้งลูกค้าชาวจีน และตะวันออกกลาง แต่ไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากไม่สามารถเข้ามาเยี่ยมชมโครงการได้” นายวิทการ กล่าวทิ้งท้าย