“GOLD” หั่นเป้ารายได้ขายอสังหาฯเหลือ 1.48 หมื่นล้าน

“แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ฯ” ปรับลดเป้ารายได้ขายอสังหาฯปีนี้เหลือ 1.48 หมื่นล้านบาท ลดลงจากเป้าเดิม 1.6 หมื่นล้าน หลังเลื่อนเปิดตัวโครงการใหม่ เพราะมีปัญหาขาดแรงงาน-สภาพอากาศ

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัทแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้ารายได้รวมในปีนี้ (ต.ค.2560-ก.ย.2561) เหลือ 1.6 หมื่นล้านบาท ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะมีรายได้รวม 1.78 หมื่นล้านบาท เนื่องจากคาดว่ารายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์จะลดลงเหลือ 1.48 หมื่นล้าน จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.61 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีการเลื่อนเปิดตัวบางโครงการออกไป

“เป้ารายได้การขายอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 1.48 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการเปิดตัวบางโครงการล่าช้าจากแผน เพราะมีปัญหาขาดแคลนแรงงานและปัญหาสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยในการก่อสร้าง ส่วนรายได้ค่าเช่าจะอยู่ที่เฉลี่ย 1,500-1,600 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะปรับลดเป้ารายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง แต่รายได้รวมในปีนี้จะยังเติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 1.22 หมื่นล้านบาท” นายธนพลกล่าว

ธนพล ศิริธนชัย

นายธนพล ระบุว่า ณ เดือนมิ.ย. บริษัทมียอดขายอสังหาริมทรัพย์รอโอน (Backlog) อยู่ที่ 4,800 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ส่วนใหญ่ในปีนี้ และในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ แบ่งเป็นโครงการที่จะเปิดตัวในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.2561 ประมาณ 10 โครงการ มูลค่า 1.37 หมื่นล้านบาท และเปิดตัวในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.2561 จำนวน 10 โครงการ มูลค่า 7,500 ล้านบาท

นายธนพล ยังกล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯตั้งงบซื้อที่ดินไว้ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้ได้ใช้งบไปเกือบหมดแล้ว และปีหน้า (ต.ค.2561-ก.ย.2562) คาดว่าจะใช้งบซื้อที่ดินไม่ต่ำกว่าปีก่อน เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของบริษัทให้ได้ 20-25% ส่วนจะเข้าซื้อที่ดินจากกลุ่มเจริญ ซึ่งเป็นหุ้นใหญ่ GOLD ในนามบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ หรือไม่นั้น ทีมบริหารจะพิจารณาโดยคำนึงถึงต้นทุนที่เหมาะสม

สำหรับความคืบหน้าในการขายที่ดินสนามกอล์ฟพื้นที่ 2,000 ไร่ บริษัทยังคงเปิดรับข้อเสนอจากนักลงทุน ทั้งนี้ สนามกอล์ฟดังกล่าวอยู่ห่างจากแนวมอเตอร์เวย์บางประอิน-โคราช 10 กิโลเมตร และห่างจากถนนมิตรภาพ 25 กิโลเมตร

นายธนพล กล่าวว่า ในส่วนรายได้ค่าเช่าจากโครงการเชิงพาณิชย์ อาทิ ปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ,สาธรสแควร์ และเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ นั้น ทุกโครงการมีอัตราการเช่า 95% ส่วนโครงการมิกซ์ยูส “สามย่านมิตรทาวน์” บริเวณหัวมุมถนนพระราม 4-พญาไท มีความคืบหน้าไปแล้ว 40% คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้จากค่าเช่าโครงการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์และรายได้ค่าเช่าอยู่ที่ 85 : 15