“โฮมโปร” จับตา “SCC-บุญถาวร” รุกธุรกิจค้าปลีก

“โฮมโปร” เกาะติดปูนซิเมนต์ไทยร่วมทุนบุญถาวร บุกธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อนสร้าง ลั่นทำตัวเองให้เข้มแข็ง “เดินหน้าลดต้นทุน-ขยายสาขา-เพิ่มยอดขายสินค้าไพรเวทแบรนด์”

น.ส.วรรณี จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านบัญชีและการเงิน บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ 3.03 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.29% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนแนวโน้มรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรก และทั้งปีมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่คาดว่าจะเติบโตที่ 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 6.42 หมื่นล้านบาท

“ในช่วงครึ่งปีหลังเราคาดหวังไม่มาก เนื่องจากกำลังซื้อในสาขาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เกษตรยังไม่เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจน แม้ว่าราคาสินค้าเกษตรรายชนิดจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าว แต่ยังมั่นใจว่ายอดขายทั้งปีจะเติบโตที่ 5% ส่วนกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรกที่เติบโตได้ 17% โดยบริษัทยังคงเดินหน้าลดต้นทุนและขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้เราจะขยายสาขาโฮมโปรเอสเพิ่มเป็น 9 สาขา”น.ส.วรรณีกล่าว

วรรณี จันทามงคล

ปัจจุบันบริษัทมีสาขาห้างโฮมโปร 82 สาขา ,โฮมโปรเอส 5 สาขา ,เมกา โฮม 12 สาขา และโฮมโปร ที่ประเทศมาเลเซีย 6 สาขา ซึ่งปีหน้าบริษัทมีแผนขยายโฮมโปร ที่ประเทศมาเลเซียอีก 2-3 สาขา

น.ส.วรรณี กล่าวถึงกรณีที่บริษัทปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ร่วมทุนกับบริษัท บุญถาวรกรุ๊ป (บุญถาวร) ตั้งบริษัทร่วมเพื่อดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้ เนื่องจากยังไม่ทราบว่าโมเดลธุรกิจของเขาเป็นอย่างไร ส่วนเรามีหน้าที่ทำตัวเองให้แข็งแรงและขายสินค้าที่ตอบโจทย์ของผู้บริโภค ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนเพิ่มรายได้จากยอดขายสินค้าที่เป็นไพรเวทแบรนด์ (สินค้าที่โฮมโปรผลิตเอง) เป็น 21% ภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 20% ของยอดขายรวม