Krungthai COMPASS ระบุโควิดระลอก 3 ฉุดเศรษฐกิจเสียหาย 9.7 หมื่นลบ.

HoonSmart.com>>Krungthai COMPASS ระบุการระบาดของโควิดระลอก 3 สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ 9.7 หมื่นล้านบาท คาดนักท่องเที่ยวปี 65 ลดเหลือเพียง 9.9 ล้านคน โดยกลุ่มพรีเมียมจะฟื้นตัวก่อนกลุ่มอื่น

Krungthai COMPASS ระบุ การระบาดระลอก 3 ยืดเยื้อรุนแรงกว่าคาด กดดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศทั้งปีอาจเหลือเพียง 63.6 ล้านคน-ครั้ง ผลของการระบาดและการมีมาตรการกึ่งล๊อคดาวน์ครั้งล่าสุด ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศเดือน ก.ค. มีโอกาสอยู่ในระดับต่ำ และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวชะลอลงไปอีก โดยนักท่องเที่ยวในประเทศปีนี้จะเหลือเพียง 63.6 ล้านคน-ครั้ง ต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ช่วงจากที่เคยประเมินไว้ที่ 81.2 ล้านคน-ครั้ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นประมาณ 9.7 หมื่นล้านบาท

ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวปี 2022 อาจมีเพียง 9.9 ล้านคน จากที่เคยสูงถึง 39.9 ล้านคนในปี 2019 ด้วยความเสี่ยงจากการกลายพันธุ์ของไวรัส ที่ทำให้ไทยมีโอกาสจะไม่รับนักท่องเที่ยวจากบางชาติ หรือหากมีการระบาดระลอกใหม่ในไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็อาจหลีกเลี่ยงการมาไทยได้ ตลอดจนการที่จีนอาจยังไม่เปิดให้ประชาชนท่องเที่ยวระหว่างประเทศในปีหน้า

ซึ่งตัวเลขอาจสูงกว่านี้ได้ หากภาครัฐสามารถควบคุมการระบาดในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโควิด-19สายพันธุ์ใหม่ๆ โดยในยามที่ภาคการท่องเที่ยวไม่สามารถพึ่งพาจำนวนนักท่องเที่ยวได้เหมือนเคย การมุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพที่จะมาไทยในปีหน้าจึงยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น

ในปี 2022 การเที่ยวด้วยตัวเองจะมีมากขึ้น เดือน มิ.ย. 2021 แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวมีความต้องการที่จะเที่ยวแบบกลุ่มเล็กหรือเที่ยวด้วยตัวเอง (Free Independent Travelers: FIT)ในช่วงหลังโควิด ซึ่งอาจมาจากเหตุผลด้านความปลอดภัยเนื่องจากการเที่ยวกลุ่มใหญ่กับกรุ๊ปทัวร์มีความเสี่ยงที่จะติดโรคมากกว่า

มีการใช้จ่ายต่อทริปที่สูงขึ้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวกลุ่มพรีเมียมจะฟื้นตัวก่อน วิเคราะห์ว่านักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้สูงจะเป็นกลุ่มที่กลับมาเที่ยวก่อน เนื่องจากน่าจะเป็นกลุ่มที่มีความสามารถในการเดินทางมาท่องเที่ยวได้มากกว่ากลุ่มอื่นที่อาจได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด และเนื่องจากที่การเที่ยวต่างประเทศเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วโลกไม่สามารถทำได้เป็นเวลานาน และยังไม่สามารถทำได้โดยสะดวกนักแม้จะมีการเปิดประเทศแล้ว ทำให้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศเป็นสิ่งที่พิเศษมากยิ่งขึ้น ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวจึงอาจมีการใช้จ่ายต่อทริปที่สูงมากขึ้น

ซึ่งผลการสำรวจความเห็นจากนักท่องเที่ยวก็ดูจะสนับสนุนข้อสมมตินี้ โดยผลสำรวจพบว่านักท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายมากขึ้นกับการเข้าพักโรงแรมที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย ตลอดจนเลือกที่จะท่องเที่ยวโดยการใช้บริการสายการบินฟูลเซอร์วิสมากขึ้น จึงประเมินว่าธุรกิจท่องเที่ยวในกลุ่มที่เน้นสินค้าและบริการพรีเมียมจะมีการฟื้นตัวได้ก่อน