HoonSmart.com> “ที คิว อาร์” ร่วมมือ “กรุงเทพประกันภัย-ทิพยประกันภัย” พัฒนา “กรมธรรม์ประกันภัยกัญชง-กัญชา” พร้อมบริหารความเสี่ยง หลังคปภ.อนุมัติกรมธรรม์ประกันภัยพืชเศรษฐกิจ กัญชงและกัญชา ฟาก CEO “ชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์” ชี้ช่วยเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ ประเมินความสนใจกรมธรรม์ฯ คึกคัก หนุนผลงานเติบโตแข็งแกร่ง
นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ (TQR) เปิดเผยว่า การที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อนุมัติกรมธรรม์ประกันภัยพืชเศรษฐกิจ กัญชงและกัญชา จะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในการเข้าไปมีส่วนร่วมให้บริการจัดหาประกันภัยต่อให้กับบริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำของประเทศ ที่ได้รับการอนุมัติกรมธรรม์ ประกันภัยพืชเศรษฐกิจฯ โดยเบื้องต้นได้ร่วมพัฒนากรมธรรม์ กับ บริษัท กรุงเทพประกันภัย (BKI) และบริษัท ทิพยประกันภัย (TIP)
ทั้งนี้ TQR ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาธุรกิจประกันภัยกัญชาฯ ตั้งแต่การวิจัยและค้นคว้าหาความต้องการของผู้ปลูก ตลอดจนกฎระเบียบและข้อกำหนดของรัฐบาลในการเพาะปลูกกัญชาฯ การพัฒนารูปแบบแผนประกันภัยที่มีความคุ้มครอง และราคาที่เหมาะสมเป็นที่ต้องการของเกษตรกรและสอดรับกับแนวทางการรับประกันภัยที่มีมาตรฐาน การจัดหาแนวทางการถ่ายโอนความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพให้กับบริษัทประกันวินาศภัย รวมทั้งการให้ข้อมูลกับสำนักงาน คปภ. เพื่อให้แผนประกันภัยกัญชาสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
“บริษัทฯ ประเมินว่า ปัจจุบันความต้องการของการปลูกกัญชา กัญชง ในประเทศไทยได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยภาครัฐสนับสนุนให้กัญชาฯ เป็นพืชเศรษฐกิจ ในกลุ่มพืชสมุนไพรที่สำคัญ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งบริษัทฯ ได้เข้าร่วมพัฒนาประกันภัยกัญชาฯ กับทางสำนักงาน คปภ.และบริษัทประกันวินาศภัย เป็นการลดความเสี่ยงให้กับการปลูกกัญชาฯ และมั่นใจว่า ธุรกิจประกันภัยกัญชาฯ จะช่วยเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ”นายชนะพันธุ์ กล่าว
นางยุพเรศ พิริยะพันธุ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ (TQR) กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจประกันกัญชาฯ คาดว่า จะเติบโตไปพร้อมกับการขยายตัวของตลาดกัญชาในอนาคต เนื่องจากมีความต้องการปลูกกัญชาฯ เพิ่มมากขึ้น ด้วยมูลค่าที่สูงและใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะในการรักษาโรคมะเร็ง และธุรกิจการปลูกกัญชาจึงจำเป็นจะต้องมีแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ประกันภัยกัญชาฯ มีแนวโน้มเติบโตตามไปด้วย
สำหรับแผนการดำเนินงานที่เหลือของปี 2564 บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนาประกันภัยในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของบริษัทประกันภัยและบริษัทรับประกันภัยต่อ อีกทั้งยังมองหาโอกาสในการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการ (service) เพื่อช่วยหนุนผลงานของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ ประกอบด้วย ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business) 50% และธุรกิจนายหน้าธุรกิจประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) 50%