หึ่ง! เก็บภาษีขายหุ้น 0.11% เป้าลูกค้าเทรด 1 ล้านบาท/เดือน

HoonSmart.com>>หึ่ง!คลังศึกษาเก็บภาษีขายหุ้น หารายได้เข้ารัฐ เล็งเป้าหมายลูกค้าซื้อขายเดือนละ 1 ล้านบาท แบกค่าใช้จ่ายเพิ่ม 1,100 บาท ไม่ว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน ปัจจุบันต้องเสียค่าธรรมเนียมให้ตลาด-ก.ล.ต.-แบงก์กรณีตัดค่าซื้อขายผ่าน รวมประมาณ 89 บาท ยังไม่นับค่าคอมมิชชั่นและภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่งสัญญาณลบต่อการลงทุน ส่วนคลังปัดตอบเรื่องนี้ ยันภาษีที่ปรับปรุงหนุนขีดความสามารถแข่งขันประเทศสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้รัฐบาล

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานโดยอ้างแหล่งข่าว กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังพิจารณาจัดเก็บภาษีจากนักลงทุนที่ซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อหารายได้เพิ่มเติมเข้ารัฐฯ โดยจะเก็บในอัตราภาษี 0.11% จากการขายหลักทรัพย์ สำหรับนักลงทุนที่มีมูลค่าการซื้อขาย 1 ล้านบาทต่อเดือน

ทั้งนี้รัฐได้ยกเว้นการเก็บภาษีซื้อขายหุ้นให้กับนักลงทุนมาตั้งแต่ปี 1991 ที่ผ่านมา แต่ในระหว่างทางนี้เคยศึกษาความเป็นไปได้ในการการจัดเก็บภาษีกำไรส่วนต่างจากนักลงทุนรายย่อยมาแล้ว   ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันต้องจ่ายภาษีกำไรจากส่วนต่างราคาหลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นทั้งในและนอกตลาด

แหล่งข่าวอีกรายกล่าวว่า แผนของรัฐบาล คือ การจัดเก็บภาษีจากคนรวยและอยู่ในขั้นตอนของแนวคิดที่ยังไม่มีกรอบเวลานำมาใช้เท่านั้น

ด้าน นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงกระแสข่าวว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาแนวทางการจัดเก็บภาษีการซื้อขายหุ้นว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เรื่องกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างภาษีในตัวใดบ้าง แต่ยืนยันระบบภาษีที่ปรับปรุงจะต้องส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และทั่วถึง โดยการนำมาใช้จะต้องสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ

ส่วนแนวทางการปฏิรูปภาษีของกระทรวงการคลังอยู่ภายใต้ 4 เป้าหมายหลัก คือ 1.ส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันและสนับสนุนการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน 2.รองรับกับเศรษฐกิจดิจิทัล 3.ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว และ 4. เป็นธรรม ทั่วถึง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสนับสนุนโครงข่ายรองรับทางสังคม และสุขภาพ

สำหรับการปฏิรูปโครงสร้างภาษีนั้น กระทรวงการคลังมีความร่วมมือกับธนาคารโลกและธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(ADB)ในการศึกษาแนวทางในการพัฒนาและเพิ่มรายได้ของรัฐบาลอย่างยั่งยืน ซึ่งจะพิจารณาโครงสร้างภาษีอย่างบูรณาการ โดยจะต้องพิจารณาทบทวนการยกเว้นภาษีบางประเภท การ ปรับอัตราภาษี การหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนต่างๆ

“การปรับโครงสร้างภาษี เพื่อให้โครงสร้างภาษีของไทยมีความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบันยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อเพิ่มความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ โดยจะคำนึงและพิจารณาถึงช่วงเวลาให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ เพื่อไม่ให้เป็นการสร้างภาระต่อประชาชนและผู้ประกอบการในระบบเศรษฐกิจจนเกินสมควร”

ปัจจุบัน นักลงทุนมีค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหลักทรัพย์  ได้แก่ 1. ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ในอัตราที่บริษัทหลักทรัพย์กำหนด  2. ค่าธรรมเนียมให้ตลาดหลัก ทรัพย์อัตรา 0.005 % ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน  3.ค่าธรรมเนียมการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ 0.001%ให้กับบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ  4.ค่าธรรมเนียมการกำกับดูแลให้แก่ก.ล.ต.อัตรา 0.001% 5. กรณีตัดบัญชีค่าซื้อค่าขายกับธนาคารจ่ายอีก 14 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มอัตรา 0.7% เบื้องต้นนักลงทุนที่ซื้อขายมูลค่า 1 ล้านบาท ต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 89 บาทต่อวัน ยังไม่รวมค่าคอมมิชชั่น