HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดบวก 12.15 จุด ช่วงเช้าได้กลุ่มพลังงานต้นน้ำหนุน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 76 เหรียญต่อบาร์เรล บ่ายปัจจัยหนุนเพิ่มหลังรัฐอนุมัติซื้อวัคซีนเพิ่ม พอร์ตโบรกฯ ซื้อสุทธิ 1 พันล้านบาท ด้านต่างชาติซื้อเล็กน้อย 54 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1.5 พันล้านบาท แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,570-1,600 จุด ใช้แนวรับซื้อ-ขายทำกำไรแนวต้าน ชูหุ้นกลาง-เล็ก แนะ MTC-SAWAD-RS-MEGA ส่วนหุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า แนะ TU
ตลาดหุ้นปิดบวก 12.15 จุด จากช่วงเช้าได้หุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำหนุน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 76 เหรียญต่อบาร์เรล
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 6 ก.ค. 2564 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,591.43 จุด +12.15 จุด หรือ +0.77% มูลค่าการซื้อขาย 69,485.37 ล้านบาท
บัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,040.80 ล้านบาท รองลงมานักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 501.61 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 53.73 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,596.15 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวได้ค่อนข้างดี รีบาวด์ขึ้นมาในกรอบสั้นๆ หลังปรับลดลงไปใกล้บริเวณ 1,570 จุด โดยช่วงเช้ามีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นอยู่ที่ประมาณ 76 เหรียญต่อบาร์เรล ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำปรับตัวขึ้นมาหนุนดัชนี ส่วนช่วงบ่ายได้ประเด็นบวกจากภาครัฐอนุมัติวัคซีนเพิ่มเติม
ส่วนแนวโน้มของตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ (7-9 ก.ค.2564) คาดว่าตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,570-1,600 จุด โดยใช้แนวรับโอกาสซื้อ และแนวต้านเป็นโอกาสในการขายทำกำไร ซึ่งมองว่าหุ้นใหญ่ช่วงนี้ยังเคลื่อนไหวได้ไม่ดีเท่ากับหุ้นขนาดกลางและเล็ก แนะนำ MTC, SAWAD, RS และ MEGA ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าขึ้นอีกในช่วงระยะสั้น แนะนำ TU ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามต่อคือจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ และการทยอยคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ของบริษัทจดทะเบียน
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
CBG ปิดที่ 149.50 บาท +6.00 หรือ +4.18% มูลค่าการซื้อขาย 3,078.11 ล้านบาท
COTTO ปิดที่ 3.12 บาท +0.30 หรือ +10.64% มูลค่าการซื้อขาย 2,940.12 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 118.00 บาท +1.50 หรือ +1.29% มูลค่าการซื้อขาย 1,857.36 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 121.50 บาท +2.50 หรือ +2.10% มูลค่าการซื้อขาย 1,853.01 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 13.60 บาท +0.20 หรือ +1.49% มูลค่าการซื้อขาย 1,572.63 ล้านบาท
