บล.คิงส์ฟอร์ด โฉมใหม่ ยกเครื่ององค์กรยึดหลักธรรมาภิบาล

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด ยกเครื่ององค์กรใหม่ ลุยธุรกิจเต็มสูบ ยึดมั่นธรรมาภิบาล ตั้งเป้านำบริษัทเข้าตลาดหุ้นไม่ต่ำกว่า 5 บริษัท

                                           ประจวบ ศิริรัตน์บุญขจร

 

นายประจวบ ศิริรัตน์บุญขจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด (KFS ) เปิดเผยว่า บริษัท ฯ มีการปรับโครงสร้างองค์กรตามนโยบายผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา โดยมีคณะกรรมการบริษัทและกรรมการบริหารชุดใหม่ ประกอบด้วย

นายสมชัย ไชยศุภรากุล ตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท , นายประจวบ ศิริรัตน์บุญขจร ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร , นายวุฒิพงษ์ วงศํภัทรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ตลอดจนทีมงานที่มีประสบการณ์ในวงการหลักทรัพย์มานาน ร่วมผนึกกำลังเดินหน้าทางธุรกิจเพื่อให้บริษัทมีความก้าวหน้าต่อไป

ขณะเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนต่อสาธารณะชน ปัจจุบัน นายประทาน (ประสิทธิ์) ศรีสุวรรณ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ในการบริหารจัดการในบริษัท คิงส์ฟอร์ด โฮลดิ้ง และบล.คิงส์ฟอร์ด แล้วทั้งสิ้น

สำหรับนโยบายการบริหารงานของคณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการบริหารชุดปัจจุบัน ได้ตั้งปณิธานเสริมสร้างความโปร่งใสในองค์กรเพื่อให้ บล. คิงส์ฟอร์ด เป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนองค์กรจนได้รับผลเป็นที่พอใจ สามารถกลับมามีผลการดำเนินงานเป็นกำไรได้ และมี Market Share ติดอันดับ Top 5 ในไตรมาสแรกของปี 2564

นอกจากนี้  บล. คิงส์ฟอร์ด มีทีมวาณิชธนกิจ ที่มีความสามารถ  เป็นที่ปรึกษานำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปแล้ว 3 – 4 บริษัท  ตั้งเป้าภายในปี 2564 บล. คิงส์ฟอร์ด  จะเป็นที่ปรึกษาการเงิน นำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 5 บริษัท

รวมทั้งมีทีมงาน Wealth Management ที่เป็นตัวกลางในการดูแลให้นำแนะนำและให้บริการด้านตราสารทางการเงิน การจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายตราสารหนี้ เพื่อให้บริการแก่นักลงทุนที่สนใจได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น

” บล. คิงส์ฟอร์ด ขอขอบพระคุณลูกค้าและผู้มีอุปการะคุณของบริษัททุกท่าน ที่ให้การอุปการะและอยู่เคียงข้างบริษัทตลอดมา จนสามารถผ่านพ้นปัญหาทุกประการมาได้ด้วยดี และทำให้ก้าวย่างจากนี้ต่อไปของ บล. คิงส์ฟอร์ด เป็นก้าวย่างที่มั่นคง แข็งแรง เติบโต ภายใต้คุณธรรมและจริยธรรมอันพึงมีของบริษัทหลักทรัพย์ไทย” ซีอีโอ กล่าวในที่สุด