CGS แนะนักลงทุนรับความเสี่ยงได้ต่ำชะลอเทรด-ลงทุนยาวโอกาสสะสมหุ้น

HoonSmart.com>> บล.คันทรี่ กรุ๊ป แนะกลยุทธ์ลงทุนกลุ่มรับความเสี่ยงต่ำแนะชะลอการลงทุน ส่วนนักลงทุนระยะยาว จังหวะปรับฐานเปิดโอกาสสะสม เน้นหุ้นรับผลกระทบ ค้าปลีก รถไฟฟ้า รับเหมา ร้านอาหาร ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ ส่วนนักลงทุนระยะสั้นแนะ ASIAN, CBG, DELTA, HANA, KCE, TU โรงพยาบาล ชู BCH, CHG

บริษัทหลักทรัพย์คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) แนะกลยุทธ์กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ สำหรับนักลงทุนรับความเสี่ยงต่ำแนะชะลอการลงทุน ส่วนนักลงทุนระยะยาวหากเกิดการปรับฐานเปิดโอกาสสะสมมากกว่าบนสมมติฐานที่ระยะยาวขึ้นไป COVID-19 จะคลี่คลาย เน้นหุ้นรับผลกระทบ อาทิ ค้าปลีก ได้แก่ BJC, CRC, CPALL, HMPRO รถไฟฟ้า BTS, BEM รับเหมา CK, STEC ร้านอาหาร CENTEL, M, MINT ศูนย์การค้า CPN โรงภาพยนตร์ MAJOR ส่วนนักลงทุนระยะสั้นแนะ ASIAN, CBG, DELTA, HANA, KCE, TU โรงพยาบาล BCH, CHG

ASIAN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 20 บาท) คาดกำไรไตรมาส 2/64 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องในทุกธุรกิจอุปสงค์อาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารแช่แข็งดีต่อเนื่อง แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงเริ่มเติบโต และคาดมีกำลังการผลิตเพิ่มอีกในช่วงครึ่งหลังปี 64 ไตรมาส 1/65 2H21-1Q22

BCH (ถือ / ราคาเป้าหมาย 21 บาท) เน้นเก็งกำไรระยะสั้นจากสถานการณ์ COVID-19 ที่เห็นการระบาดสูง ซึ่งโรงพยาบาลจะเป็นผู้ได้ประโยชน์ ด้านผลประกอบการไตรมาส 2/64 โตเด่นทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 และการเลื่อนเปิดโรงพยาบาลใหม่ที่ลาวไป 3Q21

ทั้งนี้ ช่วงวันอาทิตย์ราว 01.00 ทางรัฐบาลได้ออกมาตรการควบคุม COVID-19 โดยเนื้อหาที่กระทบกับตลาดหุ้นได้แก่ (1) ร้านอาหารในพื้นที่เขตควบคุมให้ซื้อกลับบ้านเท่านั้น (2) ในพื้นที่ควบคุมโรงภาพยนตร์งดให้บริการ (3) พื้นที่ก่อสร้างในจังหวัดที่ถูกควบคุมจะมีมาตรการคุมเข้ม เบื้องต้นเราประเมินจะกระทบกับกลุ่มร้านอาหาร (CENTEL, M, MINT) รถไฟฟ้า (BTS, BEM) สื่อนอกบ้าน (PLANB, VGI) รับเหมาก่อสร้าง (CK ,STEC) ศูนย์การค้า (CPN, CRC) โรงภาพยนตร์ (MAJOR)

อย่างไรก็ตามกับ SET INDEX เราเชื่อว่าผลกระทบไม่มากนักเนื่องจากมองว่าก่อนหน้านี้ที่ปรับฐานลงมาจากจุดสูงสุดราว 3.6% เป็นการสะท้อนของตลาดไปแล้วระดับนึง ทั้งนี้หากวันจันทร์ยังปรับฐานต่อมองแนวรับแถว 1550 +/- (อิง % ปรับฐานช่วงเมษายน 21 ที่เกิดการระบาดโดยนับจากจุดสูงสุดถึงต่ำสุด)

ขณะเดียวกันมองเป็นจุดสำคัญในการเสี่ยงซื้อบนสมมติฐานที่สถานการณ์ควรจะดีขึ้นจากนี้ตามมาตรการคุมเข้ม โดยเฉพาะกลุ่มที่รับผลกระทบจาก COVID-19 ส่วนระยะสั้นมองว่ากลุ่มอิงต่างประเทศมีความน่าสนใจกว่าโดยเฉพาะส่งออกที่เติบโตตามเศรษฐกิจคู่ค้าและได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า (ASIAN, CBG, DELTA, HANA, KCE, TU) รวมถึงกลุ่มน้ำมัน (PTT, PTTEP) ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบโลกปรับเพิ่มขึ้น โดยประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้กรอบ 1550 – 1590 จุด

ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้ได้แก่ (1) การหารือเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลในวันจันทร์แนะติดตามมาตรการ (2) ภาคแรงงานสหรัฐในวันศุกร์ประจำเดือน มิ.ย. Bloomberg ประเมินตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 7 แสนตำแหน่งและอัตราการว่างงานที่ 5.7% เชื่อตลาดอยากเห็นตัวเลขที่ใกล้เคียงคาดหรือต่ำกว่าคาดเพื่อให้ FED ผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป