AGE เดินเกมรุกปั้นอาณาจักร “โลจิสติกส์” ครบวงจร

HoonSmart.com>> “เอเชีย กรีน เอนเนอจี” เดินหน้าขยายอาณาจักรโลจิสติกส์ ท่าเรือ-กองเรือ-คลังสินค้า-รถบรรทุก แบบครบทุกมิติด้านการขนส่ง พร้อมสบช่องเร่งบริหารจัดการต้นทุนโลจิสติกส์ ทั้งเที่ยวขาไป-ขากลับ จ่อขยายการรับขนส่งสินค้าในกลุ่มสินค้าอันตราย สินค้าที่เป็นของเหลว และสินค้าใช้ตู้คอนเทนเนอร์เพิ่ม

พนม ควรสถาพร

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยว่า AGE เดินหน้ากลยุทธ์แผนธุรกิจด้านโลจิสติกส์ เพื่อก้าวสู่การขนส่งด้านโลจิสติกส์ แบบครบวงจร ผ่านบริษัทย่อย คือ บริษัท เอจีอี เทอร์มินอล จำกัด และ บริษัท เอจีอี ทรานสปอร์ต จำกัด ดังนั้น AGE จึงได้เดินหน้าลงทุนเต็มรูปแบบจากโอกาสการเติบโตของการขนส่งและโลจิสติกส์ ที่ยังมีอีกมาก เพื่อรองรับแผนการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต

ทั้งนี้ AGE ได้มีการต่อยอดการลงทุนเพื่อเสริมศักยภาพการเติบโตและยั่งยืนในอนาคต โดยให้ บริษัท เอจีอี เทอร์มินอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ AGE ได้ร่วมทุนกับ บริษัท สุวรรณเกลียวทอง จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ บริษัท เอจีอี พอร์ตเซอร์วิส จำกัด เพื่อเข้าทำสัญญาเช่าศูนย์ธุรกิจการเกษตรจากชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย ท่าเรือ 3 ท่า และโกดังสินค้า 5 หลัง บนพื้นที่ทั้งหมด 31 ไร่ ที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีระยะเวลาการเช่า 3 ปี และดำเนินการต่ออายุการเช่าไปอีก 3 ปี ส่งผลให้ AGE มีท่าเรือรวมเป็น 6 ท่า จากเดิม 3 ท่า ช่วยหนุนให้ AGE สามารถรองรับปริมาณการขนส่งผ่านท่าเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 7 ล้านตันต่อปี จากปัจจุบันที่มีการขนส่งผ่านท่า อยู่ที่ประมาณ 3 ล้านตันต่อปี

นอกจากนี้ AGE ยังเดินหน้าลงทุนขยายกองรถบรรทุกเป็นกว่า 100 คัน ในปี 2564 จากที่ปัจจุบันมีรถบรรทุกอยู่ 48 คัน และมีรถบรรทุกเป็นพันธมิตรผู้รับจ้างงานช่วง (Sub-contractor) อีก 400-500 คัน รวมถึงขยายกองเรือโดยการเช่าและการหากองเรือพันธมิตร Sub-contractor เพื่อเพิ่มปริมาณบรรทุกสินค้าเป็น 200,000 ตัน จากที่ปัจจุบัน AGE มีกองเรืออยู่ 36 ลำ ปริมาณการบรรทุกสินค้ารวมกว่า 100,000 ตัน เพื่อรองรับปริมาณการขนส่ง ทั้งถ่านหิน และสินค้าอื่นๆ ได้เพิ่มขึ้น

AGE ยังมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนด้านโลจิสติกส์ โดยการเพิ่มการขนส่งสินค้าในเที่ยวกลับมากขึ้น ด้วยการทำสัญญากับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อขนส่งสินค้าในกลุ่มทรายแก้วเพื่อผลิตขวด, กระดาษ, ไม้สับ, ขี้เลื่อย และกะลาปาล์ม เป็นต้น โดยจะหนุนให้รายได้จากธุรกิจการขนส่งโลจิสติกส์ ในปี 2564 เติบโตเพิ่มขึ้น

“จากแผนการขยายธุรกิจด้านโลจิสติกส์เต็มรูปแบบ ให้บริการขนส่งทางน้ำ ให้บริการขนส่งทางบก ให้บริการท่าเทียบเรือ และให้บริการพื้นที่จัดเก็บสินค้า โดย AGE ได้เดินหน้าขยายการรับขนส่งสินค้าในกลุ่มสินค้าเทกอง หรือ รวมกอง (Bulk Cargo) อาทิ สินค้าเกษตร ปุ๋ย แร่เหล็ก วัสดุก่อสร้าง และกำมะถัน เป็นต้น และในอนาคตจะมีการพิจารณาขยายกลุ่มสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ สินค้าอันตราย สินค้าที่เป็นของเหลว และสินค้าใช้ตู้คอนเทนเนอร์ จากเดิมที่บริษัทฯ ได้ให้บริการขนส่งหลักคือ สินค้าของบริษัทฯ คือ ถ่านหิน และให้บริการขนส่งขี้เถ้าถ่านหิน เชื้อเพลิง, และปูน ให้แก่บริษัทอื่นๆ”นายพนม กล่าว

ในขณะที่ภาพรวมของธุรกิจถ่านหินนั้น ประธานกรรมการบริหาร AGE กล่าวเพิ่มเติมว่า ปริมาณยอดขายถ่านหินในปีนี้ ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยตั้งเป้ายอดขายที่ 5.5 ล้านตัน แบ่งเป็นยอดจำหน่ายในประเทศ 4.5 ล้านตัน และต่างประเทศ 1 ล้านตัน ซึ่งเป็นผลจากภาพรวมการส่งออกในภูมิภาคกลับมาฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หนุนให้ความต้องการใช้ถ่านหินขยับเพิ่มขึ้นตามการใช้กำลังการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ประเทศใต้หวันประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศจีน ส่งผลให้ทั้งปี AGE ตั้งเป้ารายได้รวมการเติบโตรายได้ของบริษัทฯ ไว้ที่ระดับ 11,000 ล้านบาท ตามแผนธุรกิจที่วางไว้