KUMWEL โกยรายได้ 550 ลบ.ปีนี้ แจงหุ้นพุ่ง 294% ความเชื่อมั่นล้วนๆ

HoonSmart.com>> “คัมเวล คอร์ปอเรชั่น” คาดรายได้ปี 2564 แตะ 550 ล้านบาท ยอดขายทุกผลิตภัณฑ์ดีขึ้น รับไตรมาส 2 กระทบบ้าง เลื่อนรับรู้รายได้ไปไตรมาส 3-4  คาดได้งานเพิ่มขึ้นจากลูกค้าอุตสาหกรรม  ส่วนโรงงาน Ground Rod คาดแล้วเสร็จไตรมาส 3  ผลิตภัณฑ์ Innovation Product หนุนผลประกอบการ ราคาหุ้นร้อนแรงปีนี้ทะยาน 294.55%  แจงนักลงทุนเชื่อมั่นบริษัทเติบโตดี แจกปันผลมากกว่า 5% 

นายบุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น (KUMWEL) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2564 จะอยู่ที่ระดับ 550 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 437.5 ล้านบาท  คาดว่าจะเติบโตจากยอดขายผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ระบบต่อลงดิน, ระบบป้องกันฟ้าผ่า และระบบป้องกันเสิร์จ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงยังมีผลิตภัณฑ์ที่เป็น Innovation ด้วย

ส่วนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบใหม่ บริษัทฯได้รับผลกระทบบ้างบางส่วน ในไตรมาส 2/2564   แต่ยังไม่มีโครงการไหนยกเลิก เป็นเพียงการเลื่อนรับรู้รายได้ไปไตรมาส 3-4/2564  และโครงการใหม่ๆที่รอเปิดประมูล ก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน คาดว่ากลับมาเปิดประมูลและดำเนินการต่อมากขึ้น  โครงการในภาคอุตสาหกรรม อาทิ โรงงาน, อาคาร และระบบสื่อสารต่างๆ ที่ยังต้องการระบบของบริษัทจะมีเพิ่มมากขึ้น

ส่วนแนวโน้มในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโต และทำให้ผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้  ส่วนโรงงานแห่งที่ 2 ที่ผลิตเกี่ยวกับระบบท่อลงดิน  คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3  ด้านธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น อาทิ ระบบจัดการป้องกันฟ้าผ่าอัจฉริยะ (SLMS) และระบบแจ้งเตือนฟ้าผ่า รวมถึงอื่นๆ ซึ่งจะเป็นอีกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง และจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลประกอบการ

“ผลิตภัณฑ์ของเรา ค่อนข้างมีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรม  เราย้ายโรงงานมาแห่งใหม่ จะทำให้มีประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้น และสามารถขยายกำลังการผลิตได้หลายเท่าตัว เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต และต้นทุนลดลง ทำให้บริษัทขีดความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นมากยิ่งด้วย” นายบุญศักดิ์ กล่าว

ด้านราคาหุ้น KUMWEL ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2564 ถึงวันที่  24 มิ.ย.2564 ปิดอยู่ที่ 4.34 บาท เพิ่มขึ้น 3.24 บาท หรือ 294.55% บริษัทฯคาดว่ามาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่เห็นถึงผลประกอบการที่ดีขึ้น และการจ่ายปันผลในช่วงระหว่างปี 2563-2564 มากกว่า 5% ต่อปี  นักลงทุนเห็นว่าบริษัทฯมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อต่อยอดนวัตกรรม ที่สร้างการเติบโตในระยะยาว