FPI ส่งซิก Q2/64 สัญญาณธุรกิจฟื้นโควิดหนุนออเดอร์ไหลเข้าผลงานโตตามเป้า15%

HoonSmart.com>>FPI เชื่อแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/2564 ฟื้นตัวชัดเจน หลังประเทศมาเลเซียคู่แข่งทางการค้าประกาศล็อกดาวน์ หนุนออเดอร์ไหลเข้าไทย ด้านผู้บริหารชี้ธุรกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ เดินหน้ารับรู้รายได้จาก Backlog กว่า 700 ล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้กว่า 50% มั่นใจผลงานปี64 โตตามเป้า 15%

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ หรือ FPI เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส2/2564 มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน แม้จะต้องเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ลุกลามไปทั่วโลก และที่ผ่านมา การที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการค้าของไทย ได้ประกาศปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1-14 มิถุนายน 2564 ทำให้ลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะในแถบกลุ่มอเมริกาใต้ ได้หันมาสั่งซื้อสินค้า จากผู้ประกอบการของไทย ทำให้มีออเดอร์ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นภาพรวมของอุตสาหกรรมส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวได้ดีขึ้น

“อุตสาหกรรมส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ในไตรมาส 2/64 เริ่มมีการฟื้นตัว และน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ ซึ่งสะท้อนได้จากออเดอร์ที่ไหลเข้ามาในช่วงเดือนพฤษภาคม และมิถุนายนของปีนี้ โดยเฉพาะFPI มีออเดอร์เพิ่มขึ้นจากลูกค้าต่างชาติ ดังนั้นน่าจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลประกอบการออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น รวมทั้งประสิทธิภาพการควบคุมต้นทุนการผลิตในส่วนของวัตถุดิบ ค่าขนส่ง ตลอดจนการปรับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย”

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือรอรับรู้รายได้ประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ราว 50% ขณะที่ยังมีออเดอร์ใหม่ในงานด้านอื่นๆ ทยอยเข้ามาเพิ่มเติม ทำให้บริษัทฯเชื่อว่า ผลงานในปี2564 น่าจะเติบโตได้ที่ระดับ 15% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นก็น่าจะอยู่ในระดับที่ดีขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา ราคาวัตถุดิบและค่าขนส่งปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯมีนโยบายปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 10%

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะรุกขยายธุรกิจใหม่ 2 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจประเภท ดีไซน์รถยนต์ หรือการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของรถยนต์ โดยใช้เทคโนโลยี 3D Printing ซึ่งกำลังได้รับความนิยมสูงโดยเฉพาะตลาดรถหรู โดยบริษัทฯ มีแผนจะเจาะลูกค้าระดับบน เพราะหลังจากทดลองผลิตไปแล้วได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมทั้งมีแผนจะรุกธุรกิจให้คำปรึกษาในการด้านพลังงาน และนวัตกรรม เพื่อสร้างความยั่งยืน สามารถช่วยลดต้นทุนในการผลิตให้กับลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างไรก็ตาม คาดว่าธุรกิจใหม่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี