GLOCON มั่นใจกำไรชัวร์ จ่อออกวอร์แรนต์ ปีนี้กวาดรายได้ 2.1 พันลบ.

HoonSmart.com>> “โกลบอล คอนซูเมอร์”สุดหรู มั่นใจเห็นกำไรในอนาคตอันใกล้ พร้อมพิจารณากลับมาจ่ายปันผลในปี 2565  เตรียมออกวอร์แรนต์ รองรับการเติบโตในอนาคต ส่วนปี 2564 คาดรายได้แตะระดับ 2.11พันล้านบาท หรือเติบโต 17% โดยโตจากธุรกิจอาหารและผลไม้แปรรูป ส่วนโรงงานใหม่ เพิ่มกำลังผลิตถึง 3 เท่า คาดเริ่มผลิตได้ต้นปี 2565

หลุยส์ เตชะอุบล

น.ส.หลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหารและรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ (GLOCON) เปิดเผยว่า มีความมั่นใจว่าในระยะอันใกล้นี้ จะสามารถพลิกมามีกำไรได้แน่ๆ จากที่เห็นแผนธุรกิจ และการเติบโตในปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมาย รวมถึงในปีหน้า จะพิจารณากลับมาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อีกครั้ง

ส่วนไตรมาส 2/2564 คาดว่าจะเติบโตทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับโรงงานใหม่คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มผลิตได้ในช่วงต้นปี 2565  มีกำลังการผลิตมากกว่าถึง 3 เท่า ของกำลังการผลิตในปัจจุบัน ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต  คาดว่าในปี 2564 จะมีรายได้อยู่ที่ 2,114 ล้านบาท หรือเติบโต 37% จากปีก่อนที่มีรายได้  1,544 ล้านบาท โดยเติบโตจากกลุ่มธุรกิจอาหาร ทั้งในธุรกิจอาหารแช่แข็งพร้อมทาน และธุรกิจผลไม้อบแห้ง ในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 61% ของรายได้รวม

ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารโปรตีนจากพืช (Plant Based Food) คาดว่าจะเริ่มออกผลิตภัณฑ์ได้ในช่วงกลางไตรมาส 3 เบื้องต้นจะผลิตเมนูอาหารไทย เพื่อส่งออกและขายในประเทศ จะพัฒนาเมนูที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เติบโต โดยคาดว่าปีนี้จะมียอดขายของธุรกิจนี้อยู่ที่ 100 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจการนำกัญชงมาเป็นส่วนผสมในอาหาร ปัจจุบันบริษัทติดตั้งเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ระหว่างการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุมัติ ซึ่งคาดว่าบริษัทจะได้รับอนุมัติในช่วงเดือน ก.ย.นี้ และจะสามารถเริ่มการผลิตได้ทันทีในช่วงปลายไตรมาส 3

ด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 17% หรือมีรายได้อยู่ที่ 664 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาลูกค้าเดิม และเพิ่มลูกค้าใหม่ โดยการร่วมกันพัฒนาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการ ด้วยกาาวางแผนและปรับปรุงแก้ไขสินค้า เพื่อให้ตรงตามความต้องการของตลาดให้มากที่สุด

ทั้งนี้ บริษัทยอมรับว่าผลกระทบโควิด-19 ส่งผลให้ผลประกอบการธุรกิจร้านอาหารลดลงบ้าง ต้องปิดสาขาที่ไม่มีกำไรออกไป แต่ก็ได้ปรับกลยุทธ์ในการขายผ่าน Delivery มากขึ้น รวมถึงการใช้รถฟู้ดทรัค เพื่อขายตามพื้นที่ตามต่างๆเพิ่มขึ้นด้วย