โดย…รัสปูติน
www.HoonSmart.com “เสนอความจริง ทุกการลงทุน” ปีที่ 1 วันที่ 10 ส.ค.2561
* ตูข้าค่อนข้างประหลาดใจ ที่ยามนี้ นักวิเคราะห์ในตลาด ไม่ว่าสำนักไหน ไม่เคยออกข่าวหรือออกความเห็นว่า ในทางเทคนิคแล้ว ดัชนี SETที่เหนือ 1,720 จุดได้ แล้วสามารถแปลงแนวต้านเป็นแนวรับสำเร็จ ดัชนีเฉพาะหน้าจะบวกหรือลบ ไม่ใช่เรื่องต้องห่วงหาหรือปริวิตก…อย่างไรเสียแนวโน้มขาขึ้นจะต้องเกิดขึ้น กราฟรายสัปดาห์บ่งบอกชัดเจน แต่จะไปได้ไกลแค่ไหนขึ้นกับสถานการณ์หลังเทศกาลประกาศงบไตรมาสสองผ่านไปแล้ว และแนวต้าน 1,750 จุด คือจุดชี้ขาด
* ประสบการณ์ บวกสัญชาตญาณ สั่งการให้ตูข้าป่าวร้องให้สูเจ้าตรงๆ ไปว่า สงครามการค้าอันเป็นปัจจัยภายนอก และงบการเงินที่เป็นปัจจัยภายใน ผสมกับค่าบาทที่กลับมาแข็งค่าขึ้นในขณะที่ต่างชาติหรือฟันด์โฟลว์ยังมองว่าตลาดไทยมีโอกาสสร้างผลตอบแทนครึ่งหลังของปีดีขึ้นโดยเปรียบเทียบ ยังเป็นเสน่ห์ที่ทำให้แรงซื้อเริ่มกลับเข้ามา แม้ยังกระจุกตัวบ้างแต่ผลงานครึ่งแรกของปี ทำให้การเลือกซื้อยังคงมีอำนาจมากกว่าการขายทิ้งส่งเดช
* ดัชนีทำท่าจะเป็นขาขึ้น เพราะฟันด์โฟลว์ไหลเข้าแรง แต่ที่ตูข้าอยากให้สูเจ้าระวังมากยามนี้ อยู่ที่ราคหุ้นรายตัววิ่งช้ากว่าดัชนีและ SET50futures ถ้าไม่ใช่เพราะบล็อกเทรด ก็เพราะกำไรปกติแย่ลง ต้องพึ่งพากำไรพิเศษช่วยถูไถประคอง
* เจ้าพ่อคอนวีเนียนสโตร์ CPALL กำไรต่ำ นักวิเคราะห์ขาทุบรีบงัดความรู้เดิมอธิบายกันยกใหญ่ คาดเกิดจาก …1) MAKRO กำไรต่ำคาด จากขยายสาขาต่างปท…2) 7-11 ยอดขายยังดี แต่มาร์จินการตลาดเข้าสู่ช่วงผลตอบแทนถดถอย เพราะขายสินค้ามาร์จินต่ำลง ..3)สงครามแย่งตัวพนักงานรุนแรงขึ้น ..4) รายได้ phone card ลดลงเพราะเลิกAIS ..5) รายได้ counter service โตน้อยลงจากการที่หลายแบงค์ฟรีค่าธรรมเนียม..ปรับลดประมาณการ แนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว..หมากล้อมช่วยไม่ได้
* เรื่องนี้จะเกี่ยวกับหุ้นตัวไหนเดาไม่ยาก เพราะข่าว IBRD หรือ ธนาคารโลก ประกาศปรับเพิ่มอันดับและคะแนนด้าน Logistics ประเทศไทยขึ้น เป็นรองเพียงสิงคโปร์ ใน Asean เป็นอันดับที่ 32 จาก 160 ประเทศทั่วโลก ที่ 3.41 คะแนน ในขณะที่คู่ค้าหลักของเราอย่างจีนอยู่อันดับ 26โดยมีการพัฒนาทั้งด้านขนส่งทางบก , เรือ , อากาศและระบบเทคโนโลยีที่ดีขึ้น ..ราคาหุ้น WICE ที่บวกแรงบ่ายวานนี้ แม้วอลุ่มไม่มาก แต่การทะยานเกิน 0.20 บาทเหนือ 4.20 บาทอีกครั้ง ทำได้เยี่ยม กราฟสวย พ้นจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากซึมยาวโดยหาสาเหตุไม่ได้
* ITEL รายได้บริการโครงข่ายพุ่งหนุนกำไร Q2 โตทะลัก 36% มาที่ 33.76 ล้านบาท จากปีก่อน 24.82 ล้านบาท ขณะเดียวกัน 6 เดือนแรกมีกำไร 64.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากปีก่อน 43.25 ล้านบาท กำไรขนาดนี้ ราคาขยับนิดเดียว
* GOLD รายได้พุ่ง หนุนกำไรโต 71% สู่ระดับ 503 ล้านบาท จากปีก่อนกำไร 294.21 ล้านบาท สมชื่อเจ้าของและชื่อบริษัท
* ชอบลองของใหม่ต้องรายนี้ MPIC ประเดิมติดป้าย “C” รายแรก เหตุงบฯขาดทุนเพิ่ม 77% มาที่ 44.84 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 25.27 ล้านบาท ขณะที่ 6 เดือนแรกขาดทุน 48.88 ล้านบาท ลดลง 31% จากปีก่อนขาดทุน 70.71 ล้านบาท ฉุดส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียน
* เชียร์มาให้พวกออกของ ตามสูตรมาร AMANAH เจอSell on fact หลังงบQ2พลิกกำไร ฉุดราคาร่วงเกือบ 14% โบรกฯยังแนะ “ซื้อ” เป้า 3.26 บาท โดยปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ 1.95 บาท ลบ 0.31 บาท หรือ 13.72% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 220.90 ล้านบาท
* PTTGC มีข่าวดีสมค่า อัดงบ 4.1 พันล้านบาท เข้าซื้อหุ้น “SCG Chemicals-MCI” เดินหน้าขยายธุรกิจ PTA-PET เต็มสูบแถมยังอวดกำไรไตรมาสสองสวย เกิน 1 หมื่นล้านบาท แม้ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุน 1.3 พันล้านบาท จากลูกไม่รักดี ที่ทำเหนียมส่งงบหลังตลาดปิดก็ไม่มิด GGC มีผลขาดทุนสุทธิ 1,853 ล้านบาท จากการตั้งสำรองสินค้าคงคลังหายจำนวน 2,004 ล้านบาท สำหรับกำไรปกติ ทำได้ 67 ล้านบาท
* PDI ขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ไตรมาส เพราะกิจกรรมใหม่ยังไม่ผลิดอกออกผล โดยขาดทุน 99 ล้านบาท ถ้าตัดรายการพิเศษก็ยังขาดทุน 60 ล้านบาท เหตุจากธุรกิจเดิมปัจจุบันที่ซื้อมาขายไปแร่สังกะสี ให้ Gross margin ต่ำเพียง 1% จาก 20-25% ในอดีตที่มีเหมือง ส่วนธุรกิจโซลาร์ทำรายได้ 90 ล้านบาทต่อไตรมาส ไม่สามารถลดผลกระทบได้
* ·ทำเอาพวกเชียร์แขกหงายเงิน เมื่อ TK รายงานกำไรสุทธิ 2Q18 ที่ 102 ลบ. เป็นไปตามที่คาดและน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี กำไรลด 15% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองฯตาม NPL ที่สูงขึ้นและตามฤดูกาลที่เป็นไตรมาสที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องรวมถึงช่วงเปิดเทอมส่งผลต่อการติดตามหนี้และความสามารถในการชำระหนี้
* โรงพยาบาลใหญ่ แต่กำไรแย่ มันก็ต้องมีเคราะห์กรรม BH ประกาศกำไรปกติ 2Q18 ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวังที่ 972 ล้านบาท โตได้เพียง 1.3% โดยสิ่งที่น่ากังวลคือรายได้ที่หดตัว 2.5% เพราะลูกค้าหายหน้าทั้งผู้ป่วยไทย และ ต่างชาติ สวนทางกับภาพอุตสาหกรรมการแพทย์ที่ดีเพราะฝนมาเร็ว หลายโบรกฯสั่งทบทวนประมาณการและรอรับฟังข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้บริหารในการประชุมวันที่ 15 สิงหาคม