ดาวโจนส์ปิดบวก 45 จุด รับการเปิดเศรษฐกิจ แต่กังวลเงินเฟ้อ

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 45 จุด นักลงทุนมีมุมมองบวกเปิดเศรษฐกิจมากขึ้นหลังผู้ติดเชื้อลดลง ฉีดวัคซีนมากขึ้น แต่ยังกังวลเงินเฟ้อ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่บวก ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นกว่า 2%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ปิดที่ 34,575.31 จุด เพิ่มขึ้น 45.86 จุด หรือ 0.13% แม้มีมุมมองทางบวกต่อการเปิดเศรษฐกิจแต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ แรงกดดันด้านราคา และอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,202.04 จุด ลดลง 2.07 จุด, -0.05%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,736.48 จุด ลดลง 12.26 จุด, -0.09%

ในช่วงแรกของการซื้อขายหลังจากที่กลับมาซื้อขาย แต่แรงซื้ออ่อนแรงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ระดับเหนือ 1.6%

ไอเอชเอส มาร์กิตรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 62.1 จาก 60.5 ในเดือนเมษายน สูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในปี 2007

สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) รายงาน ดัชนีภาคการผลิตเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 61.2 จาก 60.7 ในเดือนเมษายน

นักลงทุนมีมุมมองทางบวกต่อการเปิดเศรษฐกิจมากขึ้นหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสลดลงและมีการฉีดวัคซีนมากขึ้น โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) เปิดเผยว่า ประชากรเกินครึ่งได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส

หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 1.7% และหุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 2.2% หลังจากสำนักงานรักษาความปลอดภัยการเดินทางเปิดเผยว่า ได้มีการตรวจผู้โดยสารราว 1.78 ล้านคนในช่วงวันที่ 28-31 พฤษภาคม ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วทั้งปีถึง 6 เท่า แต่ยังต่ำกว่าวัน Memorial Day ปีก่อนถึง 22%

หุ้นโบอิ้งเพิ่มขึ้น 3.1% หลังนักวิเคราะห์รายหนึ่งแนะนำให้ซื้อในขณะที่ราคายังอยู่ในระดับต้นปี 2020

หุ้นกลุ่มเดินเรือสำราญเพิ่มขึ้น โดยหุ้นคาร์นิวาล คอร์ป เพิ่มขึ้น 2%หุ้นนอร์วีเจียน ครูซไลน์เพิ่มขึ้น 2.7%

อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังไม่แน่ใจต่อสถานการณ์การรระบาดและยังกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อมากขึ้น เพราะระดับราคาที่สูงขึ้นจากการขาดแคลนสินค้าและความต้องการที่สูงขึ้นอาจจะทำให้ธนาคารกลาง(เฟด)ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดวงเงินซื้อพันธบัตรเร็วขึ้น

นักลงทุนจับตาการประชุมของเฟดในวันที่ 15- 16 มิถุนายนนี้และรอการรายงงานข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพฤษภาคมในวันศุกร์นี้

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มทรัพยากรพื้นที่ฐานที่เพิ่มขึ้น 2.9% นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส

ไอเอชเอส มาร์กิตรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 63.1 จาก 62.9 ในเดือนเมษายน และจากตัวเลขเบื้องต้น 62.8 ที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้

ในอังกฤษ ดัชนี PMI เดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 65.6 จาก 60.9 ในเดือนเมษายน เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูล

คณะกรรมาธิการยุโรปเตรียมที่จะให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วได้รับการยกเว้นไม่ต้องตรวจหาเชื้อหรือกักตัว เมื่อเดินทางเข้าสหภาพยุโรป

ดัชนี Stoxx Europe 600ปิดที่ 450.10 จุด เพิ่มขึ้น 3.34 จุด, +0.75%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,080.46 จุด เพิ่มขึ้น 57.85 จุด, +0.82%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,489.40 จุด เพิ่มขึ้น 42.23 จุด, +0.66%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,567.36 จุด เพิ่มขึ้น 146.23 จุด, +0.95%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์หรือ 2.1% ปิดที่ 67.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 93 เซนต์ ปิดที่ 70.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นหลังจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันหรือ OPEC+ ระบุว่า ปริมาณน้ำมันจะลดลงต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีนี้