BTSGIF เตรียมนำกระแสเงินสดจากดำเนินงานจ่ายคืนเงินทุน 0.049 บาท

HoonSmart.com>> บลจ.บัวหลวง เตรียมนำกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน “กองทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท ” จ่ายคืนเงินทุนให้ผู้ถือหน่วย 0.049 บาทต่อหน่วย ขึ้น XN 10 มิ.ย.64 จ่ายเงิน 28 มิ.ย.นี้ ด้านผลดำเนินงานงวดปี 2563/2564 ถูกกระทบโควิด-19 คาดสถานการณ์ดีขึ้น หนุนกิจกรรมเริ่มกลับ คนใช้รถไฟฟ้า BTS

นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) เตรียมนำกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน รอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2564 (ไตรมาสที่ 4 ของการดำเนินงานปี 2563/2564) จ่ายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปการคืนเงินทุน 0.049 บาทต่อหน่วย โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ จากหน่วยละ 9.692 บาท เหลือหน่วยละ 9.643 บาท ทำให้ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน จ่ายเงินปันผลและการคืนเงินทุนรวมแล้วทั้งสิ้น 5.499 บาท

การจ่ายคืนเงินทุนครั้งนี้ จะขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิในการรับคืนเงินทุน (XN) วันที่ 10 มิถุนายน 2564 ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับคืนเงินทุนในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เพื่อจ่ายคืนเงินทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 28 มิถุนายน 2564

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ปี 2563/2564 กองทุน BTSGIF มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 406.9 ล้านบาท ลดลง 57.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 48.5% จากไตรมาสก่อนหน้า มีอัตรากำไรจากรายได้จากการลงทุนสุทธิ 95.7% ขณะที่ผลการดำเนินงานทั้งปี 2563/2564 กองทุน BTSGIF มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 2,037.4 ล้านบาท ลดลง 56.9% จากปีก่อนหน้า มีอัตรากำไรจากรายได้จากการลงทุนสุทธิ 96.4%

ทั้งนี้ มูลค่าเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 อยู่ที่ 44,790.0 ล้านบาท จาก 50,310.0 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 และจากปีก่อนที่ 52,410.0 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563

นายพรชลิต กล่าวว่า ในรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 กองทุนมีการรับรู้รายการขาดทุนสุทธิจากเงินลงทุน จำนวน 5,642.3 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของมูลค่าเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิจำนวน 5,520.0 ล้านบาท และการบันทึกเงินลงทุนในสถานีเซนต์หลุยส์ (S4) จำนวน 122.1 ล้านบาท ทำให้กองทุนมีการขาดทุนสะสม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 จำนวน 10,775.4 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม รายการขาดทุนสุทธิจากเงินลงทุน เป็นรายการทางบัญชีที่ไม่ได้มีกระแสเงินสดออกไปจริง ดังนั้น แม้กองทุนจะไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนสำหรับงวดนี้ได้ตามหลักเกณฑ์และนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ระบุในหนังสือชี้ชวนของกองทุน แต่ก็ยังสามารถนำกระแสเงินสดจำนวน 283.6 ล้านบาท จ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปการคืนเงินทุนได้

นายพรชลิต กล่าวว่า การดำเนินงานของกองทุน BTSGIF ในปี 2563/2564 ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งทำให้จำนวนผู้โดยสาร และรายได้ค่าโดยสารในระบบรถไฟฟ้า BTS ลดลง

อย่างไรก็ตาม กองทุนบัวหลวง มองว่า ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มมีการกระจายวัคซีนให้กับประชาชนแล้ว หากประชาชนได้รับวัคซีนในวงกว้าง สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆ เริ่มกลับมา จำนวนผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า BTS ก็จะทยอยกลับมาเป็นปกติ เนื่องจากประชาชนยังมีความต้องการใช้ระบบขนส่งมวลชนที่อำนวยความสะดวกการเดินทางเชื่อมต่อภายในเมืองและเชื่อมต่อกับเขตเมืองชั้นนอกได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็จะส่งผลให้การดำเนินงานในอนาคตฟื้นตัวกลับมาได้

อนึ่ง มูลค่าทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่กองทุนลงทุนในปัจจุบันจะลดลงตามอายุของสิทธิในรายได้สุทธิตามสัญญาสัมปทานที่จะหมดอายุในปี 2572