“ทริพเพิลไอ” มั่นใจปีนี้รายได้โต 15-20% ลุ้นไตรมาส 4 รายได้โตกระฉูด หลังมีสัญญาณ “ไปรษณีย์ไทย” กลับมาใช้บริการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ทางอากาศอีกครั้ง
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทริพเพิล ไอ โลจีสติกส์ (III) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้จากธุรกิจทั้ง 4 กลุ่ม คือ ธุรกิจขนส่งทางอากาศ ธุรกิจขนส่งทางทะเลและบก ธุรกิจบริหารจัดการโลจีสติกส์ และธุรกิจโลจีสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ จะเติบโต 15-20% จากปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 2,326 ล้านบาท โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งทางอากาศที่สร้างรายได้คิดเป็น 70% ของรายได้รวม จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงครึ่งปีหลัง
“ไตรมาสที่ 3 และ 4 ปีนี้ ประเด็นเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกลดลงได้เริ่มคลี่คลายลงแล้ว ขณะที่ไตรมาสที่ 4 มีสัญญาณที่ดีที่บริษัทไปรษณีย์ไทย จะกลับมาใช้บริการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ทางอากาศหลังจากแก้ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยด้านการส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศได้ ซึ่งเราในฐานะที่เป็นตัวแทนของสายการบินแอร์เอเชีย พร้อมที่จะกลับมาให้บริการกับทางไปรษณีย์ไทยอีกครั้ง หลังหยุดไปตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว”นายทิพย์กล่าว
นอกจากนี้ ค่าเงินบาทในช่วงครึ่งปีแรกที่อยู่ที่ระดับ 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงนั้น ขณะนั้นสถานการณ์ค่าเงินคลี่คลายแล้ว โดยตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 ที่ผ่านมาค่าเงินบาทได้อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะส่งผลดีต่อธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศที่มีรายได้ในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีนี้ บริษัทจะรับรู้กำไรจากการเข้าซื้อบริษัท DC Packaging ที่สิงคโปร์ ในสัดส่วน 50% ของกำไร
ทั้งนี้ การเข้าซื้อ DC Packaging นั้น บริษัทตั้งเงื่อนไขการเข้าซื้อว่า DC Packaging จะต้องมีกำไรไม่ต่ำกว่า 2 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 55-60 ล้านบาท ดังนั้น คาดว่าในช่วงไตรมาส 3 และ 4 บริษัทจะบันทึกกำไรในสัดส่วน 50% สำหรับกำไรของ DC Packaging ที่ทำได้ในช่วงครึ่งปีหลัง และปีหน้าจะบันทึกกำไรเต็มปี
นายทิพย์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเข้าซื้อกิจการปีละ 1 ดีล ซึ่งปีนี้มีดีลที่ทำสำเร็จไปแล้ว คือ การเข้าซื้อ DC Packaging และขณะนี้บริษัทกำลังพิจารณาเข้าซื้อกิจการด้านขนส่งเพิ่มเติมอีก โดยจะเน้นกิจการที่ทำธุรกิจขนส่งในภูมิภาคอินโดจีน ทั้งนี้ บริษัทมีเงินที่ได้จากการทำไอพีโอเหลืออยู่ 500 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาลงทุนซื้อกิจการดังกล่าว เพื่อทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการเติบโตของธุรกิจที่มีอยู่
นายวิรัช นอบน้อมธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน III กล่าวว่า หากบริษัทได้รับสัญญาว่าจ้างจากบริษัทไปรษณีย์ไทยให้ดำเนินการขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศอีกครั้ง จะทำให้ปริมาณขนส่งสินค้าทางอากาศในประเทศของบริษัทเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 2,000-2,500 ตันต่อไตรมาส จากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งปริมาณขนส่งสินค้าทางอากาศในประเทศของเราลดเหลือ 300 ตัน จากปีที่แล้วที่มีปริมาณขนส่ง 2,600 ตัน
