บลจ.กสิกรฯ คาดกำไรบจ.โตหนุนดัชนี 1,800 จุด ปันผล 2 กองหุ้น

บลจ.กสิกรไทย มองหุ้นครึ่งปีหลังได้แรงหนุนเศรษฐกิจฟื้น กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโต คงเป้าดัชนี 1,800 จุด พร้อมโชว์ฟอร์มกองหุ้นไทย RKF2 และ RKF4 ปันผลกว่า 69 ล้านบาท จ่าย 14 ส.ค.นี้

น.ส.ธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า มุมมองการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 คาดว่าตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนในระยะสั้น จากความกังวลใน 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่อาจมีความยืดเยื้อ รวมถึงกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่อันเป็นผลมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่มีแนวโน้มแข็งค่ากว่าสกุลเงินอื่นโดยเปรียบเทียบ

อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเป็นบวกสำหรับการลงทุนในหุ้นไทยโดยอิงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะในส่วนของการฟื้นตัวของปัจจัยในประเทศ ซึ่งจะส่งผลบวกโดยตรงต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปี 2561 โดยปัจจุบันยังคาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจะเติบโตได้ในระดับ 8% ในปี 2561 และ 10% ในปี 2562 ทั้งนี้บลจ.กสิกรไทยยังคงเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปีนี้อยู่ที่ระดับ 1,800 จุด บนปัจจัยพื้นฐานที่ระดับ P/E ปี 2562 ที่ 15 เท่า

น.ส.ธิดาศิริ กล่าวว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้น ได้แก่ กองทุนเปิดรวงข้าว 2 (RKF2) ในอัตรา 0.586 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดรวงข้าว 4 (RKF4) ในอัตรา 0.299 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2560 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 โดยจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวพร้อมกันในวันที่ 14 สิงหาคม 2561 รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้น 69.77 ล้านบาท

ด้านผลการดำเนินงานของกองทุน น.ส.ธิดาศิริกล่าวว่า กองทุน RKF2 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน มีการจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 28 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 21.226 บาทต่อหน่วย ส่วนในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา (1 ส.ค. 60 – 31 ก.ค. 61) กองทุนมีการจ่ายเงินปันผล 2 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 1.386 บาทต่อหน่วย หรือสามารถคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย (Dividend Yield) อยู่ที่ 10.59% ต่อปี ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 14.18% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (SET TRI) ซึ่งอยู่ที่ 11.29% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 61)

ด้านกองทุน RKF4 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน มีการจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 23 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 9.829 บาทต่อหน่วย ส่วนในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมา (1 ส.ค. 60 – 31 ก.ค. 61) กองทุนมีการจ่ายเงินปันผล 2 ครั้ง รวมเป็นอัตรา 0.759 บาทต่อหน่วย หรือสามารถคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย (Dividend Yield) อยู่ที่ 10.16% ต่อปี ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 11.77% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (SET TRI) ซึ่งอยู่ที่ 11.29% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 61) สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของกองทุน RKF2 และกองทุน RKF4 เน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดี และได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งเป็นหุ้นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในระยะยาว