HoonSmart.com>>ธปท. กระตุ้นให้สถาบันการเงินเร่งช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูภาคธุรกิจ พบปัจจุบันปล่อยได้แค่ 16,000 ล้านบาท ขณะที่โครงการพักทรัพย์พักหนี้ผู้ประกอบการยื่นแล้ว 4 ราย
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ ธปท. และสมาคมธนาคารไทย ได้หารือร่วมกันเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 ให้เร็วขึ้นและกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น หลังจากที่มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อฟื้นฟู (มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูฯ) และโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ได้ดำเนินการผ่านมาแล้ว 3 สัปดาห์ นับตั้งแต่ 26 เมษายน 2564
ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ยอดการให้ความช่วยเหลือจากมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูฯ มีทั้งสิ้น 11,542 ล้านบาท ครอบคลุมลูกหนี้ 5,465 ราย คิดเป็นยอดสินเชื่อเฉลี่ย 2.1 ล้านบาทต่อราย โดยร้อยละ 63 กระจายลงไปยัง SMEs ขนาดเล็ก ขณะที่โครงการพักทรัพย์พักหนี้ มีมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับโอน 753.12 ล้านบาท จำนวนผู้ได้รับความช่วยเหลือ 2 ราย
และล่าสุดวันนี้ มีลูกหนี้ยื่นของความช่วยเหลือเพิ่มอีก 1,232 ราย คิดเป็นวงเงิน 4,518 ล้านบาท และยื่นเข้าโครงการพักทรัพย์พักหนี้เพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็นลูกหนี้ที่ยื่นเข้าโครงการประมาณ 6,697 ราย วงเงินรวมประมาณ 16,000 ล้านบาท จากวงเงินรวมของสินเชื่อฟื้นฟู 250,000 ล้านบาท และโครงการพักทรัพย์พักหนี้ วงเงิน 100,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา การดำเนินมาตรการอาจยังไม่ทันต่อความคาดหวังของผู้ประกอบธุรกิจ ส่วนหนึ่งเกิดจากแนวโน้มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยังซบเซา เนื่องจากมาตรการด้านสาธารณสุขที่ยังเข้มงวดเพราะการแพร่ระบาดระลอก 3 ทำให้ความต้องการสำหรับสินเชื่อฟื้นฟูอาจยังไม่มากนัก ประกอบกับโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ เป็นโครงการที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ อีกทั้งยังคงมีรายละเอียดและเงื่อนไขเฉพาะกรณีที่สถาบันการเงินและลูกหนี้จะต้องเจรจาหารือเพิ่มเติม ทำให้การให้ความช่วยเหลือในช่วงต้นจึงอาจจะยังไม่สูงนัก
อย่างไรก็ดี ยังมีลูกหนี้ SMEs อีกจำนวนหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อนและยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเพื่อนำสินเชื่อฟื้นฟูไปเป็นสภาพคล่องเยียวยากิจการ ธปท. จึงขอให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้การช่วยเหลือถูกกลุ่มเป้าหมายทั่วถึงและทันเวลาสำหรับประคับประคองกิจการที่ถูกซ้ำเติมในการระบาดระลอก 3 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย แล้วจึงค่อยทยอยปรับสู่การให้สินเชื่อที่มีขนาดวงเงินต่อรายที่เพิ่มขึ้นและระยะเวลาที่ยาวขึ้น
“แบงก์ชาติได้ขอให้สถาบันการเงินเร่งรัดกระบวนการพิจารณา และหาข้อสรุปกับลูกหนี้โดยเร็ว รวมถึงสื่อสารทำความเข้าใจกับพนักงานสาขาในการให้ข้อมูลกับผู้ประกอบการ เพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่าง “รวดเร็ว เพียงพอ และตรงจุด” “นายรณดล กล่าว