HoonSmart.com>>ไตรมาส 1/2564 บจ.ไทยแข็งแกร่ง บริษัทหลายแห่งกำไรดีเกินคาด ไปต่อไตรมาส 2 ได้รับการปรับประมาณการทั้งปี กลยุทธ์แนะจังหวะตลาดปรับฐาน หาโอกาสเลือกหุ้นชั้นดีเก็บเข้าพอร์ต รอขายครึ่งปีหลัง สภาพัฒน์ฯเปิดตัวเลขเศรษฐกิจ โต -2.6% ดีกว่าตลาดคาดว่าจะหดตัว -3.3% หั่นเป้าทั้งปีโต 1.5-2.5% ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยืนเป้าโต 1.8%
บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกาศกำไรไตรมาส 1/2564 แล้ว 90% ของทั้งหมด ถือว่าดีกว่าคาดมาก โดยมีกำไรรวมกันอยู่ที่ 2.47 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 142% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและเติบโต 40%จากไตรมาส 4/2563 ซึ่งสูงกว่าที่ Consensus คาดถึง 37% เชื่อว่าน่าจะนำไปสู่การปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 ถือเป็นโอกาสดีในการเข้าสะสมหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง
“ตลาดที่ย่อลงลึก สวนทางพื้นฐานที่เริ่มดูดีขึ้น ถือเป็นโอกาสดีในการเข้าสะสมหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งและหุ้นที่ได้รับกระแสเปิดเมืองในไทยและต่างประเทศ อย่าง MINT, BDMS เป็น Toppcicks”บล.เอเซียพลัสระบุ
บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) เปิดเผยว่า ผลงานบจ.ในไตรมาส 1/2564 อิงข้อมูลจาก Bloomberg พบว่า SET100 รายงานออกมาแล้วราว 64% มาร์เก็ตแคปของ SET INDEX กำไรสุทธิรวมกันอยู่ที่ 1.68 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 224%จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 42%จากไตรมาสที่ 4/2563 ได้แรงหนุนจากกลุ่มน้ำมัน (PTT,PTTEP) ปิโตรเคมี (IVL,PTTGC, SCC) โรงกลั่น (BCP,TOP) ธนาคารพาณิชย์ (BBL ,KBANK, KKP, KTB,SCB, TISCO
นอกจากนี้ยังมีบริษัทมากกว่า 10 แห่งที่มีกำไรดีกว่าที่คาดการณ์ เช่น TU และตลาดปรับประมาณการกำไรปีนี้เพิ่มขึ้น ได้แก่ IRPC, KBANK, KCE, PTTGC และ SCC เป็นผลให้กำไรของตลาดถูกปรับขึ้นจาก 77.70 บาท/หุ้น มาเป็น 81.87 บาท / หุ้น เติบโต 106% จากปี 2563
ส่วนบริษัทที่บล.คันทรี่ กรุ๊ปวิเคราะห์มีการเติบโตดีทั้งจากไตรมาสก่อน และไตรมาส 1/2563 ได้แก่ ASIAN, BCH, CHG, COM7, DELTA, DOHOME, GLOBAL, GPSC, HMPRO, ILM, IVL, JUBILE, JWD, KCE, NER, ORI, OSP, PTG, PTTEP, PTTGC และ RATCH คาดว่าปิโตรเคมียังดีต่อเนื่องในไตรมาส 2
“กลยุทธ์การลงทุนเชื่อว่าหุ้นกำไรดีและมีแนวโน้มดีต่อเนื่องในไตรมาส 2 จะเป็นที่สนใจของตลาด แนะหาโอกาสสะสมจากช่วงตลาดปรับฐาน เพื่อรอการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง แนะนำ IVL ราคาเป้าหมาย 55 บาท และ NER มูลคา 7.20 บาท”บล.คันทรี่ระบุ
บล.ไทยพาณิชย์แนะกลยุทธ์ อาศัยจังหวะปรับฐาน หาหลุมหลบภัยยามตลาดปรับลดลงและผันผวนสูง ได้แก่ ADVANC,EA,GULF,PTT,TU แนะนำ ADVANC มองว่าราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยกดดันไปแล้ว ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดกำไรดีขึ้น แนวโน้มในปี 2565 คาดกำไรจะกลับมาเติบโตได้ดี และเก็งกำไร BCH จากประเด็นวัคซีน
ด้านสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกของปี 2564 ลดลง 2.6% ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับการลดลง 4.2% ในไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว ไตรมาสแรกขยายตัว 0.2% ส่วนประมาณการการเติบโตในปี 2564 คาดไว้ว่าจะขยายตัว 1.5-2.5% ทั้งนี้เศรษฐกิจที่หดตัว 2.6% ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะหดตัว -3.3%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการเศรษฐกิจ ปี 2564 ที่ 1.8% มองว่าความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังอยู่ในระดับสูง คาดในปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวอาจอยู่ในกรอบ 0.25-1.20 ล้านคน
ธนาคารแห่งประเทศไทย( ธปท.) รายงานผลงานของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 1/2564 มีกำไรสุทธิ 4.38 หมื่นล้านบาท ลดลง 12.02% จากระยะเดียวกันของปีก่อน สินเชื่อชะลอตัว เติบโตเพียง 3.8% ขณะที่ NPL ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มเล็กน้อยที่ 3.10%
