PTT โชว์กำไรไตรมาส 1/64 พุ่งแตะ 3.25 หมื่นลบ.

HoonSmart.com> ปตท. โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 1/64 พุ่งแตะ 3.25 หมื่นล้านบาท พลิกจากงวดปีก่อนขาดทุน 1,554 ล้านบาท ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นหนุน

บริษัท ปตท.(PTT) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2564 กำไรสุทธิ 32,587.61 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.14 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีขาดทุนสุทธิ 1,554.36 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.06 บาท

บริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจํานวน 477,837 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจํานวน 5,730 ล้านบาท หรือ 1.2% ส่วนใหญ่จากรายได้ของธุรกิจน้ํามันที่ลดลงตามปริมาณขายที่ลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมถึงรายได้ของกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจสํารวจและผลิตปิโตรเลียมที่ปรับลงตามราคาขายเฉลี่ยของก๊าซธรรมชาติที่ปรับลดลง

อย่างไรก็ตาม รายได้ของกลุ่มปิโตรเคมีและการกลั่น รวมถึงธุรกิจการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นตามราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่สูงขึ้น

ในไตรมาส 1/2564 บริษัทและบริษัทย่อยมี EBITDA มีจํานวน 102,997 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70,612 ล้านหรือมากกว่า 100% สาเหตุหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น โดยธุรกิจการกลั่นมีผลการดําเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลจากกําไรสต๊อกน้ํามันประมาณ 12,000 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2564 ตามราคาน้ํามันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นจากสิ้นไตรมาส 4/2563 เทียบกับขาดทุนจากสต๊อกน้ํามันประมาณ 32,000 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ Accounting GRM ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 6.9 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลใน ในไตรมาส 1/2564 จากขาดทุน 7.6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในไตรมาส 1/2563 รวมถึงผลการดําเนินงานของธุรกิจปิโตรเคมีก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกับวัตถุดิบสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์โดยรวมที่ปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการซื้อสินค้าปลายน้ําที่เพิ่มขึ้น

ในส่วนของธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมีผลการดําเนินงานปรับตัวดีขึ้นโดยหลักจากกําไรขั้นต้นที่สูงขึ้นของคอนเดนเสทในประเทศ อีกทั้ง กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดําเนินงานดีขึ้น โดยหลักจากต้นทุนก๊าซฯ ที่ลดลง และราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้นของธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจจัดหาและจัดจําหน่ายก๊าซฯ ที่ขายให้กับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ธุรกิจน้ำมันมีผลการดําเนินงานเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยหลักจากกําไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าปริมาณขายลดลงจากผลกระทบการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ตาม ผลการดําเนินงานของธุรกิจสํารวจและผลิตปิโตรเลียมปรับลดลงตามราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง แม้ว่าปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น

“กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 34,142 ล้านบาท หรือมากกว่า 100% จากไตรมาส 1/2563 ตาม EBITDA ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจําใน ไตรมาส 1/2564 รวมถึงขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้สกุลต่างประเทศในไตรมาส 1/2564 ลดลง 745 ล้านบาท จาก 5,075 ล้านบาท เหลือ 4,330 ล้านบาทตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงน้อยกว่าไตรมาส 1/2563 แม้ว่าจะมีการรับรู้ขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์และภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้น”