AWC ขาดทุนไตรมาสแรก 594 ลบ. โควิดกดรายได้วูบ 56%

HoonSmart.com>> “แอสเสท เวิรด์ คอร์ป” พลิกขาดทุนไตรมาส 1/64 จำนวน 594 ล้านบาท พิษโควิด-19 ฉุดรายได้วูบ 56% ธุรกิจโรงแรมและการบริการถูกกระทบ นักท่องเที่ยวต่างชาติยังเข้าไทยไม่ได้ ด้านธุรกิจอสังหาฯ เพื่อการค้ารายได้ลด ให้ส่วนลดผู้เช่าผ่านวิกฤติ ชูธุรกิจอาคารสำนักงานแกร่งกลยุทธ์กระจายเสี่ยงพอร์ตรวม

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2564 พลิกขาดทุนสุทธิ 594.00 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.0186 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 264.51 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0083 บาท

บริษัทมีรายได้รวม 1,109 ล้านบาท ลดลง 56.0% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,519 ล้านบาท จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 และระลอก 3 โดยธุรกิจโรงแรมและการบริการได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของไตรมาส 1/2563 ที่อยู่ในสถานการณ์ปกติก่อนการแพร่ระบาด เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564 ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศได้ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า ได้รับผลกระทบจากการให้ส่วนลดค่าเช่ากับผู้เช่าพื้นที่ เพื่อช่วยให้คู่ค้าของบริษัทสามารถผ่านวิกฤตไปพร้อมกัน

อย่างไรก็ตามผลกระทบจาก COVID-19 ระลอก 2 กระทบในช่วงเดือนแรกของไตรมาส 1 และสามารถกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในเดือนก.พ. และมีโควิด-19 ระลอก 3 ในปลายเดือนมี.ค.

สําหรับธุรกิจอาคารสํานักงาน  ยังคงมีผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่ง ตอกย้ำถึงประโยชน์จากกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตทรัพย์สินของบริษัท ซึ่งทําให้บริษัทสามารถลดความผันผวนของรายได้ โดยกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งประกอบไปด้วยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าและธุรกิจอาคารสำนักงาน  มีรายได้ 740 ล้านบาท ลดลง 22.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ  ในไตรมาส 1/2564 บริษัทมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงแรม 422 ล้านบาท ลดลง 72.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและส่งผลกระทบกับรายได้ของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการของบริษัท

ทั้งนี้ เมื่อเทียบรายได้จากการดําเนินงานไตรมาส 1/2564 กับไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นไตรมาสที่เริ่มได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 และนับว่าเป็นไตรมาสที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ทั้งนี้ พบว่าบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 50.5% บริษัทมีอีบิทดาจํานวน 38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.3% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการและกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์

อย่างไรก็ดี ผลการดําเนินงานสําหรับไตรมาสนี้ดีกว่าไตรมาส 2/2563 โดยบริษัทสามารถฟื้นตัวกลับมาได้เร็วกว่าไ  ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับผลผลกระทบสูงสุด จากวิกฤตการณ์โควิด-19