หุ้นปิดเช้าลบ 15 จุด กังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่ง

HoonSmart.com>> หุ้นครึ่งวันเช้าดัชนีปิด 1,556.81 จุด ร่วง 15.04 จุด ตามตลาดภูมิภาค กังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงเกินคาด นักลงทุนเทขายหุ้นลดความเสี่ยง บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ชี้จังหวะหลุดแนวรับ 1,550 จุด ทยอยสะสมหุ้นพลังงาน-ปิโตร โรงไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์สำหรับนักลงทุนระยะยาว

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 13 พ.ค.2564 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,556.81 จุด ลดลง 15.04 จุด หรือ -0.96% มูลค่าการซื้อขาย 52,605.32 ล้านบาท

ระหว่างวันดัชนีลงไปต่ำสุดว่า 22 จุด แตะ 1,549.06 จุด และระดับสูงสุด 1,561.80 จุด ด้านโควิด-19 ในประเทศผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่ง 4,887 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 2,835 ราย ผู้ติดเชื้อทั่วไป 2,052 รายและเสียชีวิต 32 คน

บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เผยตลาดหุ้นปรับตัวลดลงทิศทางเดียวกับภูมิภาค หลังจากดัชนีเงินเฟ้สหรัฐฯ ออกมาสูงเกินคาด ความกังวลเฟดจะลดการผ่อนคลายนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด ด้านบอนด์ยิลด์ปรับขึ้นเป็น 1.683% ขณะที่ปัจจัยในประเทศ MSCI ลดน้ำหนักไทยกดดันการลงทุน อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นดี หลังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว จน UN และ EC ปรับเศรษฐกิจให้ดีขึ้น รวมทั้งไทยเร่งฉีดวัคซีนปูพรมเพิ่มอัตราการฉีดเร็วขึ้น

“หากหลุดแนวรับเป็น 1,550 จุด หลักทรัพย์กลุ่มแข็งแกร่งช่วงนี้เป็น พลังงาน-ปิโตร โรงไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนกลุ่มพาณิชย์ที่น่าสนใจคืด COM7 แต่ Consumer Finance ไม่สดใสจากการแข่งขันลดดอกเบี้ย เก็งกำไรงบ 1Q64 สำหรับนักลงทุนระยะยาว มองว่าทยอยสะสมหุ้นได้ จากปัจจัยเรื่องวัคซีนจะดีขึ้น”บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะนำ

สำหรับ 5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,563.89 ล้านบาท ปิดที่ 58.50 บาท 2.25 บาท หรือ -3.70%
TIDLOR มูลค่าการซื้อขาย 2,407.79 ล้านบาท ปิดที่ 41.00 บาท +0.75 บาท หรือ +1.86%
STA มูลค่าการซื้อขาย 2,368.40 ล้านบาท ปิดที่ 47.00 บาท -1.75 บาท หรือ -3.59%
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,964.03 ล้านบาท ปิดที่ 120.50 บาท +1.00 บาท หรือ+0.84%
STGT มูลค่าการซื้อขาย 1,725.17 ล้านบาท ปิดที่ 45.75 บาท +0.50 บาท หรือ +1.10%