ดาวโจนส์ปิดร่วง 473 จุด กังวลเงินเฟ้อ-ดอกเบี้ย

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 473 จุด กังวลเงินเฟ้อ กดดันเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ลดลงแรง ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 11 พฤษภาคม2564 ปิดที่ 34,269.16 จุด ลดลง 473.66 จุด หรือ 1.36% จากความวิตกว่าแรงกดดันเงินเฟ้อจะให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาด

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,152.10 จุด ลดลง 36.33 จุด, -0.87%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,389.43 จุด ลดลง 12.43 จุด, -0.09%

ตลาดลดลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบเดือนโดยดัชนี DJIA ได้ลดลงมากกว่า 600 จุดระหว่างวัน จากการเริ่มต้นขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และแรงขายกระจายไปทั่วตลาดทั้งในกลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน และอุตสาหกรรม แต่หุ้นเทคโนโลยีได้ปรับตัวดีขึ้นในช่วงท้ายตลาด เพราะนักลงทุนหันมาซื้อแอมะซอน และเน็ตฟลิกต์จึงปิดบวกกว่า 1% ส่วนที่เหลือปิดลบ

หุ้นเทสลาลดลง ซึ่งจัดว่าเป็นตัวแทนหุ้น growth stocks ลดลง 1.9% แต่พ้นจุดต่ำสุด

นักวิเคราะห์จาก Fort Pitt Capital Group ระบุว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ที่เพิ่มสูงขึ้นและข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นกดดันหุ้นเทคโนโลยี

รายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดทั้งการขาดแคลนแรงงานและดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคมทำให้กังวลต่อเงินเฟ้อ

กระทรวงแรงงานรายงาน ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมีนาคม ว่า เพิ่มขึ้น 597,000 ตำแหน่งหรือ 8% มาที่ระดับ 8.12 ล้านตำแหน่ง สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในเดือนธันวาคม 2000 ส่วนการจ้างงาน เพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่งหรือ 3.7% มาที่ระดับกว่า 6 ตำแหน่ง

นักลงทุนจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเมษายนที่จะเผยแพร่ในวันนี้

นักลงทุนกังวลต่อเงินราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ธนาคารกลาง(เฟด)ย้ำหลายครั้งว่าเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นเป็นภาวะชั่วคราว

นักวิเคราะห์จาก LPL Financial ระบุว่า ราคาสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นในหลายภาคส่วนสินค้าโภคภัณฑ์ ค่าขนส่งและอีกหลายประเภทที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตลาดแรงงานและห่วงโซ่อุปทานที่ยังขาดแคลน ต่างเป็นแรงกดดันเงินเฟ้อ

การเพิ่มขึ้นของราคาทำให้เก็งกันว่าเฟดจะปรับทิศนโยบายเร็วกว่าที่คาด

การลดลงของตลาดส่วนหนึ่งยังมาจากการทำ short covering

หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 1.14% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 2.39% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ลดลง 1.66% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ลดลง 1.79%

หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 3.18% หุ้นเชฟรอน ลดลง 2.62%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงแรง นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่ลดลง 5.7%จากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อ

นักลงทุนทั่วโลกจับตาการรายงานเฟ้อในสัปดาห์นี้หลังจากจีน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)เดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 0.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่า 1% ที่นักวิเคราะห์คาดเล็กน้อย ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) เพิ่มขึ้น 6.8% สูงกว่า 6.5% ที่นักวิเคราะห์คาด

ส่วนสหรัฐฯดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเมษายนจะเผยแพร่ในวันนี้ท่ามกลางความกังวลว่าจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 436.61 จุด ลดลง 8.78 จุด, -1.97%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,947.99 จุด ลดลง 175.69 จุด, -2.47%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิด 6,267.39 จุด ลดลง 118.60 จุด, -1.86%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,119.75 จุด ลดลง 280.66 จุด, -1.82%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 36 เซนต์ ปิดที่ 65.28ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ ปิดที่ 68.55ดอลลาร์ต่อบาร์เรล