GUNKUL ส่งซิกไฟฟ้า-EPC โตฉลุย เล็งลงทุนโรงสกัด CBD บริสุทธิ์ 99%

HoonSmart.com>> “สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย” CEO “กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง” ลั่นธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งโซลาร์ฟาร์ม พลังงานลมและ EPC แนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง เดินหน้าศึกษาการลงทุน กัญชง-กัญชา วางแผนลงทุนทำโรงสกัด CBD บริสุทธิ์ 99% เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต มั่นใจหนุนรายได้รวมปี 64 โตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 20% ด้านผู้ถือหุ้นไฟเขียวปันผล 0.182 บาท ขึ้น XD 6 พ.ค.นี้

ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า ธุรกิจพลังงานทดแทนและผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีและอยากให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่าผู้บริหารจะผลักดันธุรกิจในเครือ GUNKUL รวมถึงรายได้และกำไรสุทธิให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อสร้างสร้างผลตอบแทนอย่างมีศักยภาพในระยะยาว

อย่างไรก็ตามเพื่อการเติบโตอย่างมีศักยภาพของกลุ่มบริษัทฯ อย่างยั่งยืนนอกจากจะมีการปรับองค์กรครั้งใหญ่ โดยแต่งตั้งทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อดูแลบริหารงานเชิงกลยุทธ์และด้านปฏิบัติการของธุรกิจต่างๆ เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจแต่ละด้านแล้ว ยังอยู่ระหว่างศึกษาเกี่ยวกับพืชเศรษฐกิจ กัญชง หรือ กัญชา เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและสร้างจุดแข็งให้กลุ่มบริษัทฯ และสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันทางธุรกิจ จากข้อได้เปรียบด้วยพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ รวมถึงวางแผนลงทุนทำโรงสกัด CBD บริสุทธิ์ 99% ที่มีกำลังผลิต 1 ตัน (ช่อดอกกัญชง) ต่อวันตามแผนในระยะ 1 ปีข้างหน้านับจากนี้

สำหรับการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า รับเหมาก่อสร้าง โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ทั้งโซลาร์และพลังงานลมทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ยังมีงานประมูลใหม่ๆ เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ จากปัจจุบันมีงาน EPC ในมือ (Backlog) ประมาณ 8,500 ล้านบาท โดยปีนี้ตั้งเป้างาน EPC ในมือไว้ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท ทำให้มั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 20 %

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 เมกะวัตต์ ส่งผลทำให้ปี 2566 กำลังการผลิตจะเป็นไปตามเป้าหมาย 1,000 เมกะวัตต์ ภายใต้งบลงทุน (3 ปี) 2564-2566 ที่ 20,000 ล้านบาท หรือประมาณปีละ 7,000 ล้านบาท

ด้านที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดปี 2563 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.182 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 1,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 7.054% โดยได้กำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 7 พ.ค.2564 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 6 พ.ค.2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 24 พ.ค. 2564