ADD ผู้นำพัฒนาระบบเทคโนโลยี กำไรโต เทรด mai กลางปีนี้

HoonSmart.com>> “แอดเทค ฮับ” เตรียมขาย IPO  40 ล้านหุ้น  คาดเข้าเทรดกลางปีนี้ มั่นใจแนวโน้มปี 2564 สดใส รุกธุรกิจให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเชิงลึก นำเงินระดมทุนขยายแพลตฟอร์ม เพิ่มบุคลากร  ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โชว์ปี 63 รายได้ 345 ล้านบาท กำไร 72 ล้านบาท ที่ปรึกษา  ชูจุดเด่นพัฒนาระบบเทคโนโลยีครบวงจร ต้นทุนการเงินต่ำ 

 ชวัล บุญประกอบศักดิ์

นายชวัล บุญประกอบศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดเทค ฮับ (ADD) เปิดเผยว่า บริษัทจะเติบโตจากธุรกิจให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital Solution) โดยจะให้บริการเชิงลึกมากยิ่งขึ้น  ซึ่งผลงาน 3 ปีย้อนหลัง (2561-2563) เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตที่ดี มีรายได้ 11.65 ล้านบาท , 24.16 ล้านบาท และ 57.81 ล้านบาท ตามลำดับ ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 17% ของรายได้รวม

”  เรามี 3 ธุรกิจหลัก ปีนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่องแน่นอน  ที่ผ่านมาจะเกินเป้าหมายที่เราวางไว้ โดย 3 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา เราเติบโตขึ้นปีละมากกว่า 10% เราจะมุ่งเน้นธุรกิจ Digital Solution มากยิ่งขึ้น สถานการณ์โควิด-19 เป็นผลดีต่อ ADD และเป็นตัวเร่งให้มีการใช้ดิจิทัลมากขึ้น เราเข้าระดมทุนจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถ ทั้งด้านเงินทุนและด้านบุคลากร” นายชวัล กล่าว

ทั้งนี้บริษัทฯเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการระบบสนับสนุนการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ แก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ “โอเปอเรเตอร์” ซึ่งแบ่งการให้บริการออกเป็น 1. ให้บริการสนับสนุนดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content Support) 2. ให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital Solution) และ 3. ให้บริการสื่อและโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ (Online Advertising)

โดยในช่วง 3 ปีย้อนหลัง 2561-2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการเท่ากับ 289.48 ล้านบาท , 302.04 ล้านบาท และ 345.53 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิย้อนหลัง  เท่ากับ 29.29 ล้านบาท , 39.50 ล้านบาท และ 72.37 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากบริการระบบสนับสนุนการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ประมาณ 83-95% ของรายได้รวม รองลงมาเป็นรายได้จากบริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ประมาณ 4-17% ของรายได้รวม และมีรายได้จากบริการสื่อและโฆษณาออนไลน์น้อยกว่า 2% ของรายได้รวม

นอกจากนี้บริษัทฯได้เพิ่มบริการพัฒนาระบบชำระเงินค่าบริการหรือสินค้าผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Carrier Billing) เข้ามาเป็นหนึ่งในช่องทางการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อให้ผู้ใช้โทรศัพท์สามารถชำระเงินค่าบริการผ่านระบบ Carrier Billing โดยไม่ต้องใช้เงินสดหรือบัตรเครดิต สามารถใช้งานได้ทั้งแบบเติมเงิน (Prepaid) และแบบรายเดือน (Postpaid) ซึ่งบริษัทฯจะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากรายการที่ผ่านระบบของบริษัท ซึ่งในไตรมาสแรกปี 2564 ระบบ Carrier Billing ได้รองรับการซื้อเหรียญดิจิทัลในแอปพลิเคชัน สามารถนำไปซื้อสินค้าดิจิทัลในแอปพลิเคชันได้หลากหลายประเภท อาทิ เพลงรอสาย ภาพพื้นหลัง สติ๊กเกอร์ สัญลักษณ์แสดงอารมณ์ (Emoji) เป็นต้น

สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการนำไปใช้ต่อยอดธุรกิจการพัฒนาระบบสนับสนุนดิจิทัลคอนเทนต์และดิจิทัลโซลูชั่น อาทิ การให้บริการระบบที่หลากหลายรูปแบบมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มจำนวนพนักงานที่มีความรู้และประสบการณ์ เพื่อรองรับขอบเขตการให้บริการที่เพิ่มขึ้น  เพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาแพลตฟอร์มที่มีความยากมากยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อขยายการรองรับจำนวนคู่ค้าทางการตลาดให้สอดคล้องกับผู้สมัครรับบริการดิจิทัลคอนเทนต์กับโอเปอเรเตอร์ที่มีอัตราเพิ่มขึ้นในอนาคต

“เราทำธุรกิจมา 10 กว่าปี ค่อยๆเติบโตขึ้นต่อเนื่อง พยายามทำทุกอย่างให้คงที่ และมั่นคงที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พันธมิตรและผู้ถือหุ้น ก้าวต่อไปของเราในครั้งนี้ เราจะเดินหน้าเร็วขึ้นกว่าเดิม และอย่างมั่นคง อีกทั้งถึงเวลาแล้วที่จะเปิดบริษัทให้เป็นสาธารณะ เราจะพยายามสร้างการเติบโตที่ดีขึ้นในอนาคต”นายชวัลกล่าว

เอกจักร บัวหภักดี

ด้านนายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ADD เปิดเผยว่า บริษัท แอดเทค ฮับ จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO)  จำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คาดว่าจะนำเสนอขายหุ้นและเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)  ภายในครึ่งปีแรกของปี 2564  มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้และเงินสำรองต่างๆ

“ADD มีความเด่น ในการเป็นผู้เชี่ยวชาญงานพัฒนาระบบเทคโนโลยี อีกทั้งยังสามารถให้บริการได้ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทำให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี และช่องทางการขยายบริการต่างๆที่จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการต่อยอดธุรกิจในอนาคต รวมถึงการที่ ADD เป็นบริษัทที่ไม่มีต้นทุนทางเงินที่สูง ค่าใช้จ่ายจะเป็นค่าคงที่ เช่นบุคลากร หรือระบบต่างๆ ทำให้ในอนาคตเมื่อมีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ธุรกิจมีแนวโน้มที่เติบโต ยังไงกำไรก็จะดีขึ้นมาก” นายเอกจักร กล่าว