บีทีเอสฯเซ็นสัญญากับกรุงเทพธนาคม บริหารงานเดินรถ ซ่อมรถไฟฟ้าสายสีทอง 3 สถานี นาน 30 ปี ไม่รวมสัญญาซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบการเดินรถ อีก 765 ล้านบาท สร้างรายได้สม่ำเสมอให้บริษัท
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า บริษัทย่อยคือ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(BTSC) และ บริษัท กรุงเทพธนาคม ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นโดยกรุงเทพมหานคร ได้ทำสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง ระยะที่ 1 (สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี –สำนักงานเขตคลองสาน) รวมทั้งสิ้น 3 สถานี ระยะทางรวม 1.7 กิโลเมตร เป็นระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองต่อประชาชน มีมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 13,520 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ทั้งนี้ ระยะเวลาตามสัญญาดังกล่าวอาจสิ้นสุดลงก่อน หาก BTSCไม่ได้รับการว่าจ้างให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่ง
มวลชนกรุงเทพมหานคร จากกรุงเทพธนาคม จนถึงวันที่ 2 พ.ค.2585 โดยในช่วงระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี ก่อนวันที่ 2 พฤษภาคม 2585 กรุงเทพธนาคม
และ BTSC จะมาตกลงเจรจาร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานภายหลังจากวันครบกำหนด
นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการให้บริการแก่ผู้โดยสารและมาตรฐานที่ดีของระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกล ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2561 กรุงเทพธนาคมและ BTSC ได้ทำสัญญาซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง มูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 765.59ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งกรุงเทพธนาคมได้มีหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา
” การให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองจะเป็นอีกช่องทางที่สร้างกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอให้แก่ BTSC เพิ่มเติมจากรายได้จากธุรกิจอื่น
ซึ่งค่าจ้างรายปีภายใต้สัญญานี้ กำหนดขึ้นตามปัจจัยหลักต่าง ๆ เช่น จำนวนขบวนรถที่จะใช้ในการให้บริการและต้นทุนของขบวนรถ ระยะเวลาวิ่งของรถ (Car Kilometer) จำนวนผู้โดยสาร อัตราเงินเฟ้อ ค่าไฟฟ้า ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษา เป็นต้น มีการกำหนดวิธีการในการปรับค่าจ้างสำหรับปัจจัยหลักที่มีการผันแปรไว้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน เนื่องจากความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจให้กับ BTSC และ จะช่วยให้กรุงเทพมหานครสามารถคงมาตรฐานที่ดีในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร และทำให้
การบริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง และสะดวกรวดเร็ว”นายคีรีกล่าว