HoonSmart.com>> TFEX ติดอาวุธให้นักลงทุนด้วยการสัมมนาออนไลน์ ช่วยเพิ่มโอกาสพิชิตกำไร ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ จากผู้เชี่ยวชาญด้านกราฟ ในหัวข้อ “10 เคล็ดลับ พิชิต SET50 Futures ด้วยกราฟ”
สำหรับผู้ลงทุนมือใหม่ หรือผู้ที่สนใจเข้ามาซื้อขาย SET50 Futures ในตลาด TFEX นอกจากความรู้เกี่ยวกับสินค้าและกลไกการซื้อขายที่จะต้องทำความเข้าใจเป็นพื้นฐานเบื้องต้นแล้ว ก็ยังต้องรู้จักวางแผนการซื้อขาย และการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม แต่ถ้าต้องการติดอาวุธในการเทรดเพิ่มมากขึ้น การอ่านกราฟให้เป็นก็จะช่วยเพิ่มโอกาสพิชิตกำไรจากการเทรด SET50 Futures ได้ เพราะการวิเคราะห์ทางเทคนิค ถือเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณสามารถหาจุดเข้า-จุดออกในการซื้อขายได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) จึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกราฟเทคนิค คุณอุทัยวรรณ ชื่นชม เจ้าของหนังสือ “Trend line ง่ายจัง” จากบริษัท ไทยเควสท์ จำกัด มาแชร์เทคนิคดี ๆ ในการดูกราฟ ภายใต้ Workshop มือใหม่เรียนเทรดออนไลน์ หัวข้อ “10 เคล็ดลับ พิชิต SET50 Futures ด้วยกราฟ” ซึ่งสรุปเทคนิคสำคัญได้ดังนี้
- ใช้แท่งเทียนดูแนวโน้มตลาด อย่างแรกที่ผู้ลงทุนมือใหม่ต้องรู้เกี่ยวกับการดูกราฟ คือ ความหมายของตัวแท่งเทียนทั้งแดงและเขียว เพราะลักษณะการเคลื่อนไหวและสีของแท่งเทียน จะหมายถึงอารมณ์ของตลาดในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งจะนำมาสู่การวิเคราะห์จังหวะในการเปิดหรือปิดสถานะสัญญา เช่น ทริคการอ่านกราฟของ SET50 Futures หากเห็น “แท่งเทียนสีแดงยาวกลบแท่งสีเขียวของราคาวันก่อนหน้า” ให้คาดการณ์ว่าตลาดอาจจะเข้าสู่ขาลง ดังนั้น ให้เตรียมเปิดสถานะขาย (Short) ไว้ หรือหากถือสถานะซื้อ (Long) อยู่ก็ให้เตรียมตัวปิดสัญญาเพื่อป้องกันการขาดทุน
- ใช้ Time Frame ให้เหมาะกับสินค้า Time Frame คือ การแสดงกราฟในรายเวลาต่าง ๆ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกช่วงเวลาในการแสดงกราฟราคาได้ตามความต้องการ เช่น รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือเลือกให้แสดงกราฟรายนาที เพื่อดูทิศทางการเคลื่อนไหวหรือการปรับตัวขึ้น-ลงของราคา โดยเทคนิคพิชิต SET50 Futures ด้วยกราฟ ของคุณอุทัยวรรณ ในข้อนี้ก็คือ ถ้าต้องการดูภาพระยะสั้นให้เลือกใช้ Time Frame ช่วง 5, 15 หรือ 30 นาที เพราะสินค้าในตลาด TFEX มีความรวดเร็ว จึงควรเลือกใช้ Time Frame นี้ ซึ่งเหมาะกับการนำมาประกอบการตัดสินใจหรือกำหนดทิศทางการซื้อขาย
- ใช้ Time Frame ในการหาแนวโน้ม การใช้ Time Frame ในการหาความสัมพันธ์ของแนวโน้ม และเป้าหมายที่เกิดขึ้นในแต่ละ Time Frame (สั้น กลาง ยาว) จะทำให้เห็นการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งใน อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ซึ่งโดยปกติแล้วใน Time Frame ใหญ่จะมี Time Frame เล็ก ๆ ประกอบอยู่ เช่น กราฟรายเดือนจะมีการเคลื่อนไหวของราคารายวัน และรายสัปดาห์อยู่ หรือที่หลายคนรู้จักกันในประโยคที่ว่า “Time Frame ใหญ่ คลุม Time Frame เล็ก”
- ดู “ยอด–ฐาน” หาแนว “รับ–ต้าน” การจะหาแนวต้าน-แนวรับที่ดี ต้องหา ยอด-ฐาน ของช่วงเวลานั้น ๆ ให้ได้ ซึ่งโดยทั่วไป ถ้าเราหาจุดที่ราคาสูงสุดอย่างน้อย 2 จุด แล้วลากเส้นเชื่อมกัน จะได้เส้นแนวต้าน และถ้าหาจุดต่ำสุดอย่างน้อย 2 จุด แล้วลากเส้นเชื่อมกัน ก็จะได้เส้นแนวรับ แต่ถ้าเราใช้จุดสูงสุด และจุดต่ำสุดที่ใกล้กับราคาปัจจุบันมากที่สุด เราจะได้เส้นที่เรียกว่า Trend Line ทั้งนี้ การเทรด SET50 Futures ควรสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาอย่างสม่ำเสมอ เช่น หากหลุดเส้นแนวรับ ตลาดอาจเปลี่ยนแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง ให้เตรียมเปิดสถานะขาย (Short) ทันที
- ใช้ Trend Line ดูแนวโน้ม Long / Short เมื่อเราหาแนวรับและแนวต้านได้แล้ว ผู้ลงทุนจะสามารถลากเส้นเพื่อดูแนวโน้มของราคา (Trend Line) และนำมาใช้วิเคราะห์การถือสถานะ Long หรือ Short สัญญา SET50 Futures ได้ เช่น ควรถือสถานะ Long หากกราฟอยู่แนวโน้มขาขึ้น หรือถือสถานะ Short หากกราฟอยู่แนวโน้มขาลง สำหรับมือใหม่ควรฝึกตีเส้น Trend Line อย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูแนวโน้มในการคาดการณ์ทิศทางของตลาด และปรับเปลี่ยนสถานะ Long และ Short ให้เหมาะสมกับสถานการณ์
- มองระยะสั้นด้วย Stochastic สโตแคสติก (Stochastic) คือ ดัชนีวัดการแกว่งตัวของราคา โดยเป็นการนำราคาในช่วงเวลาหนึ่ง กับราคาปิด มาคำนวณหาความสัมพันธ์ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของราคา Stochastic เป็น Indicator ที่เหมาะแก่การดูแนวโน้มในช่วงเวลาระยะสั้นถึงกลาง ทริคการใช้ข้อมูลของ Stochastic คือ เมื่อใด %K ตัดขึ้นเหนือ %D เป็นจุดซื้อ (Long) และ เมื่อใด %K ตัดลงใต้ %D เป็นจุดขาย (Short)
- ดูภาพกว้างด้วย RSI RSI หรือ Relative Strength Index เป็น Indicator สำหรับใช้ดูการแกว่งตัวของราคา หรือเป็นตัวช่วยในการยืนยันทิศทางของราคา หัวใจหลักของการใช้ RSI ก็คือ Overbought ระดับที่มีคนซื้อมากจนทำให้ราคาแพงเกินไป เป็นสัญญาณขาย และ Oversold ระดับที่มีคนขายมากเกินไปจนราคาถูกลงมาก เป็นสัญญาณซื้อ
- วิเคราะห์ด้วย MACD เป็นเครื่องมือที่แสดงวงจรของราคา ซึ่งสร้างจากความต่างของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ Exponential 2 เส้น วิเคราะห์ประกอบกันกับเส้น Signal Line ซึ่งเหมาะแก่การใช้ดูแนวโน้มระยะเวลากลาง-ยาว หากเส้น Signal Line มีทิศทางตัดขึ้น ให้เปิดสถานะซื้อ (Long) และเปิดสถานะขาย (Short) เมื่อเส้น Signal Line มีทิศทางตัดลงมา
- หาราคาเป้าหมายด้วย Fibonacci เป็นการนำผลรวมทางตัวเลขตามหลักคณิตศาสตร์มาใช้เป็น Indicator โดยนำชุดตัวเลขเหล่านี้มาสร้างเป็นสัดส่วนระยะห่างระหว่างเส้นแนวโน้ม เพื่อใช้ในการคำนวณหาแนวต้าน-แนวรับ จาก % ที่กำหนด สิ่งที่ทำให้ Indicator นี้พิเศษก็คือเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้หาแนวโน้มได้หมดทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะสั้น กลาง หรือ ยาว
- ตัดสินใจ Stop Loss ให้เป็น หากคุณเป็นผู้ลงทุน คงรู้ดีอยู่แล้วว่าไม่ว่าจะเทรดอะไร ก็ต้องมีจุด Stop Loss เสมอ จุด Stop Loss ไม่ใช่แค่ใช้เป็นจุดตัดขาดทุน แต่ก็สามารถใช้เป็นจุดปิดสัญญาเพื่อทำกำไรได้ คุณอุทัยวรรณ ชื่นชม ได้แนะนำว่า จุด Stop Order มีด้วยกัน 2 แบบ คือ ปิดสัญญา (Stop Loss) เมื่อเส้น Trend Line หลุดจากเส้นแนวโน้ม หรือกำหนดจุดออกเป็น % (Trailing Stop) โดยค่าที่นิยมใช้ เช่น 3%, 5% หรือ 10%
สุดท้ายนี้ คุณอุทัยวรรณ ชื่นชม ได้ฝากข้อคิดดี ๆ ให้กับนักเทรดมือใหม่ทุกคนว่า ไม่ว่าจะเป็น การดูกราฟ หรือทริค คำแนะนำต่าง ๆ ที่ได้จาก Workshop นี้ ก็อย่าลืมไปว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ปัจจัยหรือเครื่องมือที่ใช้ประกอบกับการตัดสินใจในการลงทุนเท่านั้น ดังนั้น ไม่ว่าจะซื้อขายสินทรัพย์หรือสัญญาใด ๆ ก็ตาม ต้องมาจากการตัดสินใจที่พิจารณาอย่างดีด้วยตัวของคุณเองเสมอ
ผู้สนใจสามารถรับชม Workshop มือใหม่เรียนเทรดออนไลน์ (ภาคค่ำ) หัวข้อ “10 เคล็ดลับ พิชิต SET50 Futures ด้วยกราฟ” ย้อนหลังได้ที่ https://www.tfex.co.th/th/activities/SET50_Futures_Workshop_2021.html