โดย…..สุนันท์ ศรีจันทรา
หุ้นบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ร้อนแรงขึ้น 2 วันติดแล้ว หลังจากที่บริษัทฯ แจ้งรายงานการตรวจสอบพิเศษเศษและงบการเงินงวดบัญชีปี 2560 ฉบับแก้ไข ซึ่งตัวเลขขาดทุนลดลงกว่า 200 ล้านบาท กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้ามาเก็งกำไรหุ้นตัวนี้
ราคาหุ้น GL พุ่งขึ้นแรงเมื่อวันที่ 1สิงหาคมที่ผ่านมา โดยปิดที่ 6.65 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 29.13% ซึ่งถือเป็นราคาสูงสุดติดเพดาน 30% และวันที่2 สิงหาคมนักลงทุนยังลุยเก็งกำไรกันต่อ ผลักดันให้ราคาขยับขึ้นมาปิดที่ 7.40 บาท เพิ่มขึ้น 75 สตางค์ หรือ เพิ่มขึ้น 11.28%
GL แจ้งตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมเกี่ยวกับความคืบหน้าการตรวจสอบพิเศษ ระบุว่า บริษัท มาร์ชาร์ส จำกัด ซึ่งเป็นสำนักงานตรวจสอบบัญชีในประเทศสิงคโปร์ ได้จัดทำรายงานการตรวจสอบบัญชี โดยไม่พบหลักฐานใดๆ ที่ชี้ว่า เงินให้กู้ยืมลูกค้าในสิงคโปร์และเกาะไซปรัส ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
และไม่พบหลักฐานใดๆ ที่ชี้ว่า ผู้กู้ถูกควบคุมหรือครอบครองโดยบริษัท
ส่วนงบการเงินงวดบัญชีปี 2560 ฉบับปรับปรุงใหม่ ขาดทุนสุทธิจำนวน 1,607.05 ล้านบาท ลดลง 215.50 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงบการเงินที่เปิดเผยก่อนหน้าที่ขาดทุนสุทธิจำนวน 1,822.55 ล้านบาท
รายงานทั้งสองชิ้น จุดพลุให้นักลงทุนแห่กลับเข้ามาเล่นหุ้น GL ไล่ซื้อกันฝุ่นตลบ จนราคาดีดกลับกว่า 40% ในช่วงสองวันทำการ
เมื่อเดือนตุลาคมปี 2560 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษนายมิทซึจิ โคโนชิตะ อดีตประธานกรรมการบริษัท ในความผิดทุจริตและการทำธุรกรรมอำพรางเพื่อให้ผลประกอบการบริษัทสูงเกินความเป็นจริง
โดยการปล่อยเงินกู้จำนวน 96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้ผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์และกลุ่มเกาะไซปรัส และมีดอกเบี้ยค่างรับ จนถูกผู้สอบบัญชีตั้งข้อสังเกตในหมายเหตุงบการเงินปี2559
หลังจากการเปิดโปงการปล่อยกู้ลูกค้าในสิงคโปร์และเกาะไซปรัส โดยเข้าข่ายการสร้าวธุรกรรมอำพราง หุ้น GL ถูกเทขายอย่างหนัก จนราคาทรุดฮวบ นักลงทุนเสียหายกันย่อยยับ เพราะราคาเมื่อต้นปียังยืนอยู่เหนือ 60 บาท แต่รูดลงไปต่ำสุดที่ 4.94บาท
ผลประกอบการที่พุ่งขึ้นแรงในปี 2559 โดยมีกำไรสุทธิ 1,063.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 100% เมื่อเทียบกับปี 2558 แต่ต้องทรุดหนักในปี 2560 ซึ่งขาดทุนสุทธิ 1,607.05 ล้านบาท แม้ไตรมาสแรกปีนี้จะกลับมามีกำไรสุทธิ 104.82 ล้านบาท แต่ยังต้องรอดูต่อไปว่า ผลประกอบการ GL ฟื้นจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า นักลงทุนจะไม่รอดูผลดำเนินงานของ GL แล้ว โดยกระโดดเข้าไปลุยเก็งกำไรหุ้นตัวนี้ทันที
หลังรายงานการตรวจสอบพิเศษ โดยบริษัทตรวจสอบบัญชีสิงคโปร์ค้ำประกันว่า การปล่อยกู้ให้ผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์และกลุ่มเกาะไซปรัส ไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า เป็นธุรกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้กู้ไม่ได้ถูกควบคุมหรือครอบงำ ซึ่งหมายถึงไม่ได้เป็นนอมินีของ GL
และงบการเงินปี 2560 ฉบับปรับปรุงใหม่ ซึ่งปรากฏว่า ยอดขาดทุนลดลงกว่า 215 ล้านบาท
ยังไม่มีใครออกมาเตือนถึงความร้อนแรงของหุ้น GL ปล่อยให้นักลงทุนแห่เข้าไปเก็งกำไรกันสุดตัว และดูเหมือนทุกคนจะลืมเหตุการณ์ความผันผวนที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีก่อน
ถ้า GL ฟื้นจริง ธุรกรรมอำพรางในอดีตที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษไว้ สะสางเสร็จสิ้นแล้ว คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะสะกิดนักลงทุนให้ระมัดระวังในการเก็งกำไร
แต่ถ้าปัญหาเก่าในอดีตยังไม่จบ แนวโน้มผลดำเนินงานยังไม่สดใส การเข้าไปไล่หุ้น GL จะกลายเป็นเรื่องที่น่าหวาดเสียวแทนนักลงทุนรายย่อยๆ
เพราะมีสิทธิเจ็บตัวจากหุ้นตัวนี้ซ้ำรอยอดีต