ดาวโจนส์ปิดลบ 68 จุด ระงับใช้วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดลบ 68 จุด ฟื้นจากร่วงลงไป 150 จุด กังวลกระทบจากการระงับใช้วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ด้าน Morgan Stanley มองไม่น่าห่วงเปิดประเทศได้ครึ่งปีหลัง ส่วนอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.สูงเกินคาด ไม่น่ากังวล ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น  

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์  วันที่ 13 เมษายน 2564 ปิดที่ 33,677.27 จุด ลดลง 68.13 จุด หรือ 0.20% แต่ฟื้นจากที่ร่วงลงไป 150 จุด จากความกังวลต่อการระงับใช้วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แม้อัตราเงินเฟ้อไม่ได้อยู่ในระดับที่น่ากังวลอย่างที่คาด

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,141.59 จุด เพิ่มขึ้น 13.60 จุด หรือ 0.33%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,996.10 จุด เพิ่มขึ้น 146.10 จุด หรือ 1.05%

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) และสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ร่วมกัน ระบุข้อแนะนำให้ระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ชั่วคราว จนกว่า CDC จะสรุปผลการตรวจสอบกรณีผู้หญิง 6 คนที่ได้รับวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เกิดลิ่มเลือดอุดตันรุนแรง
หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ลดลง 1.3%

การระงับใช้วัคซีนของ J&J กดดันให้หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอ่อนตัวลง โดยหุ้นอลาสก้าแอร์ และหุ้นอเมริกันแอร์ไลน์ ต่างลดลง 1.5% หุ้น Avis Budget บริการรถเช่าลดลงเกือบ 1% แต่หุ้นโมเดอร์นา ผู้ผลิตวัคซีนอีกรายเพิ่มขึ้น 7.4%

เจฟฟ์ ไซเอนส์ ผู้ประสานงานทำเนียบขาวให้ความเห็นว่า การประกาศของ FDA ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการฉีดวัคซีน ใน 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถกระจายวัคซีนได้กว่า 25 ล้านโดสทั้งของไฟเซอร์และโมเดอร์นาต่อสัปดาห์ และจะกระจายอีก 28 ล้านโดส ซึ่งเกินพอที่จะฉีด 3 ล้านครั้งต่อวันและจะบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีน 200 ล้านครั้งภายใน 100 วันแรกของการรับตำแหน่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley มองว่า การระงับใช้วัคซีนของ J&J จะไม่ทำให้ตลาดร่วงลงมาก และยังคงมุมมองทางบวกว่าจะสามารถเปิดเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ได้ในครึ่งหลังของปี

นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบรายปี

กระทรวงแรงงาน รายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนและเพิ่มขึ้น 2.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงสุดนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงของปี 2561 และสูงกว่า 0.5% กับ 2.5% ที่นักวิเคราะห์คาด

ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบรายปี

นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า นักลงทุนรับข่าวเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดและรอการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 14 เมษายน แต่ลึกแล้วนักลงทุนปรับสถานะเป็นตั้งรับ ( defensive) เห็นได้จากการปรับขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ กลุ่มสาธารณูปโภคและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนพันธบัตร

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาที่ 1.62%

สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติ (NFIB) รายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นแตะระดับ 98.2 จาก 95.8 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น 1.6% นักลงทุนเกาะติดการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ และรอการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ในอังกฤษ GDP เดือนกุมภาพันธ์ขยายตัว 0.4% จากเดือนก่อนหน้า แต่ต่ำกว่า 0.6% ที่นักวิเคราะห์คาด ผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.3% สูงกว่า 0.5% ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนภาคบริการเพิ่มขึ้นเพียง 0.2%

ในเยอรมนี สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ZEW รายงานความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนมีนาคมลดลงมาที่ ระดับ 70.7 จุดจาก 76.6 สวนทางกับการเพิ่มขึ้น 79.0 ที่นักวิเคราะห์คาด จากความวิตกต่อการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด

ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ประกาศเพิ่มการถือหุ้นในแอร์ฟรานซ์ เคแอลเอ็มหลังจากซื้อหุ้นเพิ่มทุนมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,890.49 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด หรือ 0.02%

ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 6,184.10 จุด เพิ่มขึ้น 22.42 จุด หรือ 0.36%

ดัชนี DAX ปิดที่ 15,234.36 จุด เพิ่มขึ้น 19.36 จุด หรือ 0.13%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 60.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 63.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล