ดาวโจนส์ปิดลบ 55 จุด รอตัวเลขเงินเฟ้อ กำไรบจ.

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดลบ 55 จุด รอตัวเลขเงินเฟ้อ ผลดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน จลาดหุ้นยุโรปลดลง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA)  วันที่ 12 เมษายน 2564  ปิดที่ 33,745.40 จุด ลดลง 55.20 จุด หรือ -0.16% ฟื้นจากจุดต่ำสุดของวัน ท่ามกลางการซื้อขายซบเซา เพราะนักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน  

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,127.99 จุด ลดลง 0.81 จุด หรือ -0.02% 

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,850.00 จุด ลดลง 50.19 จุด หรือ -0.36% 

ในบรรดาหุ้นบลูชิป หุ้นอินเทลลดลงมากสุดกว่า 4% 

หุ้น Nuance Communications เพิ่มขึ้นเกือบ 16% หลังไมโครซอฟต์ประกาศจะซื้อกิจการในมูลค่า16 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของไมโครซอฟต์  

หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 5.6% หลังแจ้งว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกสูงกว่าประมาณการที่ให้ไว้ และคาดว่าความต้องการจะยังมีมากซัพพลายในปีนี้ 

ตลาดอ่อนตัวลงจากการปรับลดลงของหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยหุ้นคาร์นิวาล หุ้นนอร์วีเจียน ครูซไลน์ ต่างลดลงกว่า 4%  

หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์ลดลง 3.9% หลังระบุว่าผลการดำเนินงานไตรมาสแรกจะลดลง 66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นตามที่บริษัทคาดว่าก่อนหน้าว่าจะลดลง 65%-70%  
หุ้นเทสลาเพิ่มขึ้นกว่า  3% หลังจาก Canaccord Genuity ปรับคำแนะนำเป็นซื้อและปรับราคาเป้าหมายเป็น 
1,071 ดอลลาร์ เป็นผลจากนวัตกรรมแบตเตอรี่ 
นักวิเคราะห์จาก E-Trade ระบุว่า นักลงทุนรอข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคที่จะเผยแพร่ในวันที่ 14 เมษายน ที่จะบ่งชี้ทิศทางเงินเฟ้อ  รวมทั้งผลการดำเนินงานที่จะกำหนดความเคลื่อนไหวของตลาดในระยะต่อไป 

นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบรายปี 

ตลาดยังอ่อนตัวลงจากความเห็นของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลาง(เฟด) ที่ให้สัมภาษณ์รายการ “60 Minutes” ของสำนักข่าว ซีบีเอส แม้จะย้ำว่า เฟดยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป และมีความเป็นได้น้อยที่จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ และเฟดจะทำทุกวิถีทางที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรฐกิจเพื่อให้ฟื้นตัวเต็มที่ ตลอดจนการฉีดวัคซีนและมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจสดใส และพร้อมที่จะขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่เฟดจับตาตลาดอย่างใกล้ชิดเพราะราคาสินทรัพย์ได้สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์  

นอกจากนี้นายพาวเวลล์ยังระบุว่า  เฟดต้องการเห็นเงินเฟ้อปรับตัวไปสูงกว่าเป้าหมาย 2% ไประยะหนึ่งก่อนที่จะขึ้นดอกเบี้ย แต่เศรษฐกิจอยู่ในจุดหักเห โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่มีความเสี่ยงหากเปิดเศรษฐกิจเร็วเกินไปจนนำไปสู่การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 

ตลาดยังจับตาการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัว รวมทั้งแผนการลงทุนวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ว่าจะผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาหรือไม่ 
 
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่ลดลง1.3% นักลงทุนรอการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน  และจับตาการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ 
ในเดือนกุมภาพันธ์ยอดค้าปลีกยูโรโซนเพิ่มขึ้น 3% จากเดือนก่อนหน้า สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด  

ในอังกฤษทยอยผ่อนคลายล็อกดาวน์โดยอนุญาตให้รับประทานอาหารกลางแจ้งได้ให้สถานบริการ ร้านตัดผม ยิม ร้านค้าและสถานที่เปิดโล่ง เปิดบริการได้ 

ดัชนี Stoxx 600 ปิดที่  435.24 จุด ลดลง 1.99 จุด หรือ -0.46% 
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,889.12 จุด ลดลง 26.63 จุด หรือ -0.39% 
ดัชนี CAC 40 ปิดที่  6,161.68 จุด ลดลง 7.73 จุด หรือ -0.13% 
 ดัชนี DAX ปิดที่  15,215.00 จุด ลดลง 19.16 จุด หรือ -0.13% 

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 38 เซนต์ ปิดที่ 59.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 33 เซนต์ ปิดที่ 63.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เร